เอเอฟพี - ผู้ลี้ภัยชาวยาซิดีที่หลบหนีการไล่ล่าของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (Islamic State - IS) จนไปติดอยู่บนภูเขาซินจาร์ทางตอนเหนือของอิรักมีจำนวนน้อยกว่า และสภาพความเป็นอยู่ก็ดีกว่าที่สหรัฐฯ คาดการณ์เอาไว้ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงเมื่อวานนี้ (13)
“จากผลการประเมิน หน่วยงานต่างๆ จึงสรุปว่า แผนอพยพพลเรือนออกจากที่นั่นมีความจำเป็นน้อยลง” พล.ร.ต.จอห์น เคอร์บีย์ เลขาธิการฝ่ายสื่อมวลชนของเพนตากอน ให้สัมภาษณ์ หลังจากที่กองกำลังสหรัฐฯได้ขึ้นเครื่องบินเข้าไปตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ของผู้ลี้ภัยชาวยาซิดีด้วยตาตนเอง
“สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติระบุว่า มีพลเรือนหลายหมื่นคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยชาวยาซิดี ถูกกลุ่มนักรบญิฮาดไอเอสไล่ล่าจนไปติดอยู่กลางภูเขา หลังจากที่กลุ่มติดอาวุธได้บดขยี้เมืองต่างๆ ทั้งในอิรักและซีเรียอย่างสายฟ้าแลบและป่าเถื่อน”
เคอร์บีย์ย้ำว่า ทหารอเมริกันที่ถูกส่งเข้าไปสังเกตการณ์ความเป็นอยู่ของชาวยาซิดี ไม่ได้มีส่วนในการสู้รบใดๆ ทั้งสิ้น
สัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีบารัค โอบามา มีคำสั่งให้กองกำลังสหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเพื่อปกป้องผู้ลี้ภัยชาวยาซิดีและเจ้าหน้าที่อเมริกันในเมืองอาร์บิล เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานแห่งอิรัก แต่ยังยืนยันคำเดิมว่าจะไม่ส่งทหารอเมริกันแนวหน้ากลับเข้าไปทำสงครามในอิรักอีก
“ทหารทีมนี้มีอยู่ไม่ถึง 20 นาย และไม่ได้เข้าไปปฏิบัติการโจมตี ขณะนี้ทั้งหมดเดินทางโดยเครื่องบินกลับถึงเมืองอาร์บิลอย่างปลอดภัยแล้ว” เคอร์บีย์กล่าวระหว่างแถลงรายงาน
เจ้าหน้าที่อเมริกันกลุ่มนี้ประเมินว่า ชนกลุ่มน้อยยาซิดีที่ติดอยู่บนภูเขาซินจาร์มีจำนวนน้อยกว่าที่คาด ส่วนหนึ่งเกิดจากผลสัมฤทธิ์ของการโปรยสิ่งของบรรเทาทุกข์ การโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอเอส ความพยายามของกองกำลังชาวเคิร์ด “เปชเมอร์กา” และความสามารถของชาวยาซิดีเองที่ทยอยหลบหนีออกจากภูเขาซินจาร์ในยามค่ำคืน ตลอดช่วงหลายวันมานี้
“ชาวยาซิดีที่ยังหลงเหลืออยู่บนภูเขามีสภาพความเป็นอยู่ดีกว่าที่เราคาดไว้ พวกเขายังพอมีอาหารและน้ำดื่มที่หน่วยบรรเทาทุกข์นำไปมอบให้”