เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีเยอรมนี "อังเกลา แมร์เคิล" ได้เรียกร้องให้มีการหยุดยิงในระหว่างการพูดคุยกับ "เปโตร โปโรเชนโก" ประธานาธิบดียูเครน ขณะที่ประเทศซึ่งอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตแห่งนี้ ก็กำลังจะเฉลิมฉลองวันประกาศเป็นประเทศเอกราช ส่วนขบวนรถบรรเทาทุกข์ของรัสเซียได้เดินทางออกจากยูเครนแล้ว
การมาเยือนยูเครนของ แมร์เคิล ครั้งนี้ เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการเจรจากันระหว่าง โปโรเชนโก และผู้นำรัสเซีย "วลาดิมีร์ ปูติน" พร้อมด้วยบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอียูในวันอังคารที่จะถึงนี้ (26 ส.ค.)
ระหว่างที่อยู่ในกรุงเคียฟ แมร์เคิล ได้เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิง รวมถึงดำเนินการควบคุมดูแลพื้นที่แนวชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้ช่วยหยุดยั้งการสู้รบอันดุเดือดระหว่างกองทัพยูเครนกับพวกกบฏที่ฝักใฝ่รัสเซีย ซึ่งกินเวลามานานกว่า 4 เดือน
เธอระบุว่า บูรณภาพแห่งดินแดนและความเป็นอยู่ที่ดีของยูเครนคือสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก พร้อมกับได้เตือนรัสเซียด้วยว่า อาจต้องเจอกับมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงขึ้น
"เราเลิกคิดเรื่องการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรไม่ได้หรอก ถ้าเรื่องพวกนี้ยังไม่มีความคืบหน้า" เธอบอกกับนักข่าว
ด้านโปโรเชนโก ระบุว่า ถึงเวลาของสันติภาพแล้ว สำหรับการสู้รบในภาคตะวันออกของประเทศยูเครน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยอมเสียอำนาจอธิปไตยในพื้นที่แถบนั้นเพื่อยุติการสู้รบ
"ยูเครนและบรรดาพันธมิตรชาติยุโรป รวมถึงทั่วโลก ยินดีที่จะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้การสู้รบครั้งนี้ยุติลง แต่จะต้องไม่แลกด้วยการสูญเสียอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดนและเอกราชของยูเครน" เขากล่าว
ยูเครน ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต ได้ฉลองครบรอบปีที่ 23 ของการประกาศเป็นประเทศเอกราชในวันนี้ (24 ส.ค.) โดยมีการสวนสนามของเหล่าทัพต่างๆ ในกรุงเคียฟ งานเริ่มตั้งแต่เวลา 7.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (14.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) แม้ว่าในภาคตะวันออกจะยังมีการสู้รบอยู่
ด้านการสู้รบภาคพื้นดินนั้นดุเดือดมากยิ่งขึ้น เมื่อทางยูเครนได้รุกกดันเข้าใส่พื้นที่ครอบครองของฝ่ายกบฏที่ดูจะอ่อนระโหยโรยแรงเข้าไปทุกที โดยหวังที่จะเผด็จศึกบรรดาผู้ก่อความไม่สงบเหล่านี้
ความตึงเครียดได้เพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 ส.ค.) หลังจากที่ทางรัสเซียได้ส่งขบวนรถบรรทุกจำนวนหลายสิบคัน ข้ามพรหมแดนโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อนำสิ่งของความช่วยเหลือต่างๆ ไปให้กับเมืองลูกานสก์ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญของกบฏ ทำให้ทางยูเครนออกมาระบุว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นการรุกรานกันโดยตรง
ขณะที่ผู้สังเกตการณ์รายหนึ่งขององค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (โอเอสซีอี) ที่อยู่บริเวณชายแดนได้บอกกับเอเอฟพีว่า บรรขบวนรถบรรเทาทุกข์ของรัสเซียได้พากันกลับไปหมดแล้วเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น (17.00 น. ตามเวลาประเทศไทย)
สำหรับยอดผู้เสียชีวิตจากการสู้รบเมื่อวันเสาร์ (23 ส.ค.) เอเอฟพีระบุว่า เห็นศพพลเรือน 6 ราย ซึ่งมีเด็กรวมอยู่ด้วย ทั้งหมดเสียชีวิตจากกระสุนปืนใหญ่ที่ตกลงมาในย่านชุมชนสองแห่งของโดเนตสก์
ผู้มีอำนาจในท้องถิ่นระบุว่า ดอนบาส อารีนา ซึ่งเป็นสนามเหย้าของทีมสโมสรฟุตบอล ชัคเตอร์ โดเนตสก์ ที่สร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งใช้ในการแข่งฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 ก็ถูกกระสุนปืนใหญ่ตกใส่เป็นครั้งแรกนับแต่เริ่มมีการสู้รบครั้งนี้