รอยเตอร์ส/เอเอฟพี - พวกแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซียหลายร้อยคนบุกที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นในเมืองลูฮันส์ค โดยตำรวจไม่พยายามขัดขวางใดๆ ในวันอังคาร (29) หลังเข้าควบคุมสำนักงานอัยการและศูนย์ข่าวไปไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ตอกย้ำให้เห็นว่ารัฐบาลกลางของยูเครน ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ทางตะวันออกของประเทศได้ ขณะที่ประธานาธิบดีรักษาการโวยตำรวจทั้งเฉื่อยชาและไร้สมรรถภาพที่จะปกป้องพลเรือน
ในขณะเดียวกัน กลุ่มมือปืนราว 20 คน ยังใช้อาวุธปืนกลและระเบิดแสง ระดมโจมตีศูนย์บัญชาการตำรวจท้องถิ่นของเมืองแห่งนี้ ในความพยายามกดดันให้ตำรวจวางอาวุธ ไม่นานหลังจากพวกแบ่งแยกดินแดนเข้าควบคุมที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่น สำนักงานอัยการและศูนย์ข่าวได้ทั้งหมดแล้ว
รัฐบาลในเคียฟ สูญเสียการควบคุมกำลังตำรวจในหลายพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน นับตั้งแต่นักเคลื่อนไหวฝักใฝ่รัสเซียเข้าบุกยึดอาคารราชการต่างๆ ในเมืองโดเนตส์ค เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของภาคตะวันออกและเมืองเล็กๆ อีกหลายแห่ง
ความล้มเหลวในการรักษาหน่วยงานรัฐบาลในเมืองลูฮันส์คในวันอังคาร (29) ได้สร้างความฉุนเฉียวแก่ประธานาธิบดีรักษาการของยูเครน ที่กล่าวหาตำรวจเฉื่อยชาและทรยศ หลังปล่อยให้กลุ่มรักรบฝักใฝ่มอสโกบุกยึดไปอย่างง่ายดาย
นายโอเล็กซานดร์ ตูร์ชินอฟ รักษาการประธานาธิบดียูเครน ระบุในถ้อยแถลงว่าเหตุการณ์ในพื้นที่อ่อนไหวทางตะวันออกของประเทศ แสดงให้เห็นถึงความเฉื่อยชา ไร้สมรรถภาพและในบางกรณีอาจเป็นความผิดทางอาญาว่าด้วยการขายชาติของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย “มันยากที่จะยอมรับ แต่มันเป็นความจริง เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายส่วนใหญ่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างลุล่วงเพื่อปกป้องพลเรือน”
ทางการยูเครนตะเกียกตะกายหาทางขับไล่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนออกจากอาคารราชการตามเมืองต่างๆ ทางภาคตะวันออกของประเทศ โดยเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน ได้ปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้าย แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นผลใดๆ ซ้ำรายในวันศุกร์ (25) ที่ผ่านมา ฝ่ายกบฏยังควบคุมตัวเจ้าหน้าที่องค์กรเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (โอเอสซีอี) 6 ราย ไว้เป็นตัวประกันด้วย
วยาเชสาฟ โพโนมาร์ยอฟ ผู้อ้างตัวว่าเป็นนายกเทศมนตรีคนใหม่ของเมืองสลาเมียนส์คบอกว่าเขาจะพิจารณาปล่อยผู้สังเกตการณ์ของยุโรป 6 คน ที่พวกเขาควบคุมตัวไว้ ก็ต่อเมื่ออียูยอมยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อแกนนำฝ่ายกบฏเสียก่อน หลังทั้งหมดถูกจับกุมฐานเป็นสายลับของยูเครน
ส่วนที่เมืองโดเนตส์ค กลุ่มแบ่งแยกดินแดนบอกว่าพวกเขาจะจัดทำประชามติแยกภูมิภาคดอนบาสส์เป็นเอกราชในวันที่ 11 พฤษภาคม ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนับเป็นการกัดเซาะความพยายามของรัฐบาลที่จะจัดประชามติเชิงหารือและไม่มีผลบังคับ ทั่วยูเครนในวันที่ 25 พฤษภาคมหรือ 15 มิถุนายนนี้ ในวันเดียวกับการลงคะแนนโหวตเลือกประธานาธิบดี เพื่อวัดความต้องการกระจายอำนาจจากส่วนกลางไปสู่ภูมิภาค
มอสโกปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าพวกเขาจัดฉากเหตุการณ์ทางภาคตะวันออกของยูเครน และมีแผนรุกรานดินแดนแถบนั้น ซึ่งเป็นถิ่นฐานของชาวบ้านที่พูดภาษารัสเซีย หลังจากผนวกไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนเมื่อเดือนที่แล้ว
