เอเอฟพี – ประธานาธิบดีรักษาการยูเครนส่งสัญญาณเห็นด้วยกับการทำประชามติระดับชาติ เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ระบบการปกครองแบบสหพันธรัฐ (federation) ซึ่งจะช่วยให้พลเมืองเชื้อสายรัสเซียทางภาคตะวันออกได้รับสิทธิกว้างขวางยิ่งขึ้น
กลุ่มติดอาวุธซึ่งสนับสนุนรัสเซียได้บุกยึดที่ทำการรัฐบาลหลายแห่งในเมืองทางตะวันออกของยูเครน เช่น โดเนตสก์ และเรียกร้องให้มีการทำประชามติระดับท้องถิ่นเพื่อขอสิทธิในการปกครองตนเองเพิ่มขึ้น หรือไม่ก็ขอแยกดินแดนไปผนวกรวมกับมอสโก
โอเล็กซานดร์ ตูร์ชินอฟ รักษาการประธานาธิบดียูเครน ยังไม่ยอมปฏิบัติตามข้อเรียกร้องดังกล่าว แต่แสดงท่าทีเห็นด้วยหากจะมีการทำประชามติระดับชาติเพื่อตัดสินสถานะของยูเครนในอนาคต ซึ่งผลที่ออกมาก็ยากที่จะคาดเดา เพราะประชากรส่วนใหญ่ในกรุงเคียฟและพลเมืองภาคตะวันตกที่ใช้ภาษายูเครน ไม่เห็นด้วยกับการใช้ระบบสหพันธรัฐ
ตูร์ชินอฟ ยังกล่าวเป็นนัยๆ ว่า การทำประชามติอาจจัดขึ้นพร้อมกับศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ หลังอดีตประธานาธิบดี วิกเตอร์ ยานูโควิช ผู้มีจุดยืนเอียงข้างรัสเซีย ถูกรัฐสภาถอดถอนไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
“ในช่วงนี้มีการพูดถึงเรื่องประชามติกันมาก” ตูร์ชินอฟ กล่าวต่อบรรดา ส.ส.อาวุโส ในถ้อยแถลงซึ่งได้รับการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ
“รัฐบาลไม่ได้คัดค้านการทำประชามติระดับชาติ ซึ่งหากรัฐสภาให้ความเห็นชอบก็สามารถที่จะจัดควบคู่ไปกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีได้”
“ผมเชื่อมั่นว่าประชาชนส่วนใหญ่จะสนับสนุนให้ยูเครนเป็นหนึ่งเดียว มีเอกราช และมีการปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย... นี่คือความคิดของผม และผมเชื่อว่าทุกท่านก็คงเห็นไม่ต่างกัน”
ผู้ประท้วงโปรรัสเซียในภาคตะวันออกเกรงว่าจะสูญเสียสิทธิในการพูดภาษารัสเซีย และยังกังวลว่าเศรษฐกิจยูเครนอาจล่มสลาย หากรัฐบาลเคียฟตัดสัมพันธ์กับรัสเซียซึ่งมีความผูกพันกันทางประวัติศาสตร์อย่างแนบแน่น
รัฐบาลชุดใหม่ของยูเครนได้ทำข้อตกลงความร่วมมือด้านการเมืองกับสหภาพยุโรปไปแล้ว และเป็นที่คาดหมายว่าจะมีการลงนามข้อตกลงกระชับสัมพันธ์การค้าและเศรษฐกิจภายในปีนี้