เอเจนซีส์/เอเอฟพี - ประธานาธิบดีรักษาการยูเครน อเล็กซานเดอร์ ตูร์ชินอฟ กล่าวยอมรับในวันนี้ (30) ท่ามกลางที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในกรุงเคียฟว่า “รัฐบาลยูเครนไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในภาคตะวันออกได้” พร้อมกับสั่งให้กองทัพยูเครนเตรียมพร้อมรบขั้นสูงสุดเพื่อรับมือกองกำลังรัสเซียที่อาจบุกเข้ามา
“ผมจะขอยืนยันว่าภัยที่รัสเซียต้องการรุกรานแผ่นดินยูเครนนั้นมีจริง ดังนั้นทางกองทัพต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา” ประธานาธิบดีรักษาการยูเครน อเล็กซานเดอร์ ตูร์ชินอฟ กล่าวยอมรับในวันนี้ (30) ท่ามกลางที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในกรุงเคียฟ
นอกจากนี้ สื่อยูเครนยังรายงานว่า ตูร์ชินอฟเรียกร้องให้มีการเร่งจัดตั้งกลุ่มกองกำลังที่จงรักภักดีต่อเคียฟประจำภูมิภาค “เราควรมีความสามารถในการเคลื่อนย้ายหน่วยพวกนั้นโดยเร็วที่สุดเพื่อสนับสนุนหน่วยงานภูมิภาคอื่นเพื่อกำหราบภัยความมั่นคงนี้” ตูร์ชินอฟกล่าว
นอกจากนี้ตูร์ชินอฟยังยอมรับว่า รัฐบาลรักษาการของเขาไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ในภาคตะวันออกของประเทศซึ่งเหล่าผู้ประท้วงนิยมมอสโกได้รุดหน้ายึดครองที่ทำการมืองและสถานีตำรวจเพิ่มขึ้นตามลำดับ พร้อมยังระบุก่อนหน้านี้ว่า มีเจ้าหน้าที่ยูเครนในส่วนบังคับกฏหมายกำลังร่วมมือกับองค์กรผู้ก่อการร้าย (ที่ตูร์ชินอฟหมายถึงกลุ่มผู้ประท้วงนิยมมอสโก) และเจ้าหน้าที่ของเคียฟนั้นถูกอ้างถึงคือกลุ่มเจ้าหน้าที่ในปฎิบัติการสลายผู้ประท้วงที่ได้ยึดสถานที่ราชการท้องถิ่นอยู่ในขณะนี้
“หน้าที่พื้นฐานของเราคือป้องการการขยายตัวของกลุ่มก่อการร้ายไปสู่ภูมิภาคอื่นของยูเครน” ตูร์ชินอฟกล่าวต่อ
ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร (29) ที่ผ่านมา ตูร์ชินอฟแถลงผ่านหน้าจอโทรทัศน์ว่า สถานการณ์ในภาคตะวันออกของประเทศแสดงถึงการไม่ทำอะไร สิ้นหวัง นั้นส่อให้เห็นถึงสัญญาณของการทรยศต่อชาติ พร้อมกับขู่ที่จะปลดเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นทางภาคตะวันออกยกคณะ
ถึงแม้ที่ผ่านมาตูร์ชินอฟจะออกปฏิบัติการทหารต่อต้านก่อการร้ายที่ระดมทั้งเจ้าหน้าที่และอาวุธหนักสู่ภาคตะวันออก แต่ยังไม่สามารถยุติวิกฤตที่ผู้ประท้วงเร่งยึดที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นได้ ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่าเคียฟไม่มีกองกำลังที่ยังจงรักภักดีในมือมากพอที่จะออกปฎิบัติการกวาดล้างกลุ่มผู้ประท้วง และในจำนวน 1-3 ครั้งที่กองกำลังจากส่วนกลางที่ถูกส่งไปกลับยอมจำนนโดยง่ายพร้อมกับยอมให้ยึดทั้งอาวุธและรถหุ้มเกราะ เป็นต้น
โดยพบว่ากลุ่มนักแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซียล่าสุดสามารถยึดสถานีตำรวจและตึกว่าการประจำเมืองกอร์ลิฟกา (Gorlivka) ทำให้มีจำนวนของเมืองที่อยู่ใต้การควบคุมของฝ่ายต่อต้านอำนาจใหม่เคียฟมีจำนวนมากกว่า 12 แห่ง
โดยการยึดสถานที่ทำการของเมืองท้องถิ่นแห่งใหม่ได้สำเร็จเกิดขึ้นหลังจากการปะทะใกล้กับเมืองลูแกนสค์ (Lugansk) ในคืนดึกวันอังคาร (29) ที่ผ่านมา ที่มีกลุ่มผู้ประท้วงนิยมรัสเซียเดินขบวนจำนวนหลายร้อยคนที่มีกลุ่มติดอาวุธเป็นแนวหน้าเข้ายึดสถานีตำรวจ