สื่อแดนมังกรเดือด เร่งปักกิ่งสั่งสอนออสซี หลัง ส.ส.นักธุรกิจปากกล้าด่าจีนแหลก

เอเจนซีส์ - หนังสือพิมพ์ทรงอิทธิพลในแดนมังกร เรียงหน้าออกมาเรียกร้องปักกิ่งสั่งสอนแคนเบอร์ราให้รู้สำนึกว่า ไม่ได้สำคัญมากมายนักกับจีน หลัง ไคลฟ์ ปาล์มเมอร์ นักธุรกิจใหญ่ชาวออสซีที่ผันตัวเองมาเล่นการเมืองจนได้เป็น ส.ส.และหัวหน้าพรรคซึ่งมีบทบาทในรัฐสภา ได้กล่าวคำหยาบด่าทอจีนเที่ยวเข่นฆ่าประชาชนของตัวเอง ตลอดจนด่าทอพวกนักธุรกิจแดนมังกรว่าต้องการเข้ามายึดออสเตรเลีย ทางด้านรัฐบาลแดนจิงโจ้ร้อนใจแถลงตำหนิ ส.ว.ปากกล้าผู้นี้ และรัฐมนตรีต่างประเทศก็ส่งสาส์นด่วนชี้แจงสถานทูตจีน

แม้ทางรัฐบาลจีนเองยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ แต่หนังสือพิมพ์ใหญ่ในกำกับของภาครัฐแดนมังกรอย่าง โกลบัลไทมส์ ซึ่งอยู่ในเครือ “พีเพิลส์เดลี่” ของพรรคคอมมิวนิวนิสต์จีน ได้ออกบทบรรณาธิการเมื่อวันพุธ (20 ส.ค.) ที่มีเนื้อหาเรียกร้องให้ปักกิ่งลงมือ “ปฏิบัติการลงโทษเขาอย่างหนักแน่นจริงจัง”

บทบรรณาธิการนี้ เรียกการแสดงความคิดเห็นด้วยคำผรุสวาทของมหาเศรษฐีออสเตรเลียผู้นี้ว่า คือ “การประกาศความเป็นอันธพาลอย่างดุร้ายป่าเถื่อน” เพื่อย้ำให้เห็นว่า “สังคมออสเตรเลียนั้นมีท่าทีที่ไม่เป็นมิตรต่อประเทศจีน”

“จีนจะต้องทำให้พวกชอบก่อกวนด้วยความเริงร่าเหล่านี้รู้ว่า พวกเขาจะต้องจ่ายแพงลิบลิ่วขนาดไหน เมื่อพวกเขาจงใจที่จะป่วนพวกเรา” โกลบัลไทมส์บอก พร้อมกับเสนอแนะว่า ปักกิ่งควรจะยกเลิกการติดต่อทางธุรกิจทุกอย่างที่ทำกับ ปาล์มเมอร์ , ห้ามตัวเขาและพวกผู้บริหารอาวุโสของเขาเข้าประเทศจีน และอาจจะถึงขั้นประกาศมาตรการลงโทษบริษัทออสเตรเลียทุกแห่งที่ติดต่อทำธุรกิจกับเขา

ไม่เพียงเท่านั้น บทบรรณาธิการนี้ยังบอกว่า ออสเตรเลียก็สมควรได้รับบทเรียน

โกลบัลไทมส์กล่าวหาแคนเบอร์ราว่า ดำเนินนโยบาย “การเมืองแบบฮูลิแกน” โดยในทางการเมืองนั้นอ้าแขนต้อนรับประเทศที่มีกรณีพิพาทกับจีนอันได้แก่อเมริกาและญี่ปุ่น แต่พร้อมกันนั้นก็มุ่งหาทางกอบโกยผลกำไรจากการค้าขายกับปักกิ่ง

“จีนไม่สามารถนิ่งเฉยหรือมีเมตตากับบุคคลผู้นี้ เพียงเพราะว่ารัฐบาลออสเตรเลียประณามเขาแล้ว”

โกลบัลไทมส์สำทับว่า ควรจะต้องลดความสำคัญของออสเตรเลียในยุทธศาสตร์ระดับโลกของจีนลงไปอีก และชี้ว่าในปัจจุบันออสเตรเลียก็ใช่ว่าจะสำคัญอะไรนักหนาสำหรับจีน

“ออสเตรเลียเป็นแค่หุ้นส่วนธุรกิจห่างๆ และสถานที่ที่คนจีนสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวและเรียนภาษาอังกฤษบ้างเท่านั้น”

ปัจจุบัน จีนมีฐานะเป็นชาติคู่ค้าอันดับหนึ่งของออสเตรเลีย ดังนั้นจึงปรากฏว่า รัฐมนตรีต่างประเทศ จูลี บิชอป ได้ออกมาวิจารณ์การกล่าวผรุสวาทต่อจีนของปาล์มเมอร์ว่า เป็นสิ่งที่ “น่าสะอิดสะเอียน, ไม่จำเป็น และยอมรับไม่ได้สำหรับผู้ที่มีตำแหน่งเป็นสมาชิกผู้หนึ่งของรัฐสภา” ขณะที่รัฐมนตรีคลัง โจ ฮ็อกกี บอกว่าคำพูดของปาล์มเมอร์ “กำลังสร้างความเสียหายอย่างมโหฬาร”

รัฐมนตรีต่างประเทศ บิชอปยังเผยว่า จะติดต่อกับสถานเอกอัครราชทูตจีนเพื่อย้ำว่า รัฐสภาออสเตรเลียไม่เห็นด้วยกับการสบประมาทจีนของปาล์มเมอร์

ไม่เพียงแต่โกลบัลไทมส์ สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนก็กระโดดเข้าร่วมวงด้วย เพียงแต่ดูจะใช้ถ้อยคำเบากว่า โดยระบุในบทความชิ้นหนึ่งว่า ไม่ควรปล่อยให้ “แอปเปิลเน่าผลเดียว” ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างกัน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า สถานเอกอัครราชทูตจีนในแคนเบอร์ราได้รับอีเมลให้กำลังใจจากชาวออสเตรเลียที่รู้สึกลำบากใจกับคำวิจารณ์ของปาล์มเมอร์

ซินหวายังรายงานว่า ปาล์มเมอร์เป็นผู้ที่เปลี่ยนจุดยืนเกี่ยวกับจีนไปตามผลประโยชน์ทางธุรกิจของเขา กล่าวคือในปี 2011 หลังจากได้รับเงินก้อนใหญ่จากหุ้นส่วนที่เป็นบริษัทจีน คนผู้นี้ถึงขั้นโจมตีแคนเบอร์ราว่า เลือกปฏิบัติกับการลงทุนของจีน

หุ้นส่วนที่ว่าคือ ซิติก แปซิฟิก ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีนที่ทำสัญญาเช่าพื้นที่ของมาร์ดี สเตชัน ฟาร์มปศุสัตว์ในออสเตรเลียตะวันตกของปาล์มเมอร์เป็นเวลา 25 ปี เพื่อทำเหมืองสินแร่แมกนีไทต์ในชื่อโครงการชิโน ไอออน ซึ่งเป็นการลงทุนในเหมืองแร่นอกชายฝั่งใหญ่ที่สุดของจีน

แต่ปาล์มเมอร์เริ่มเปลี่ยนไป หลังจากที่ตกลงกับซิติกไม่ได้เรื่องการแบ่งปันผลผลิต รวมทั้งเรื่องจะให้บริษัทไมเนอรัลโลจี้ของปาล์มเมอร์เป็นผู้ดำเนินการด้านท่าเรือส่งออกของโครงการนี้ที่ท่าเรือเพรสตันหรือไม่ นอกจากนี้ ซิติกยังกล่าวหาว่า ไมเนอรัลโลจี้ยักยอกเงินจากบัญชีธุรกิจไปอัดฉีดแคมเปญหาเสียงของปาล์มเมอร์

ในวันพุธ (20) นักธุรกิจปากกล้าแดนจิงโจ้ผู้นี้แพ้คดีในศาลถึงสองคดี โดยในคดีแรกนั้น ศาลส่วนกลางของออสเตรเลียวินิจฉัยว่า รัฐบาลออสเตรเลียมีความผิดที่แต่งตั้งไมเนอรัลโลจี้เป็นผู้ดำเนินการท่าเรือเคป เพรสตัน ที่ชิโน ไอออนใช้ในการส่งออกสินแร่

ส่วนอีกคดีนั้น ศาลส่วนกลางตัดสินว่ารัฐบาลออสเตรเลียมีสิทธิ์อนุมัติแผนการของซิติก แปซิฟิก ในการรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่ต่างๆ ในท่าเรือเคป เพรสตัน ทั้งนี้ไมเนอรัลโลจี้ยื่นฟ้องเรื่องนี้เพื่อขัดขวางไม่ให้ซิติก แปซิฟิก ซึ่งควบคุมโดยซิติก กรุ๊ปของรัฐบาลจีน ส่งออกสินแร่จากโครงการชิโน ไออนที่มีมูลค่าถึง 8,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย

ซิติกนั้นซื้อสิทธิ์ในสินแร่จากปาล์มเมอร์และเริ่มจัดส่งเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดเกิน 3 ปีและมีต้นทุนบานปลายเกือบ 4 เท่าของต้นทุนที่คาดการณ์แต่แรก

นอกจากนั้น ยังมีคดีเกี่ยวกับค่ารอยัลตี้ 200 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียอยู่ในการพิจารณาของศาลออสเตรเลียในขณะนี้

สำหรับตัวปาล์มเมอร์นั้น ได้ออกมาแก้ตัวว่า คำวิจารณ์ของเขาที่กลายเป็นปัญหาขึ้นมานั้น เขาไม่ได้เจตนาเหมารวมคนจีนทั้งหมด จากนั้นเมื่อวันพุธ ปาล์มเมอร์ได้ออกคำแถลงอีกฉบับระบุว่า ตนเป็น “ผู้สนับสนุนคนสำคัญของจีน” มายาวนาน

“สิ่งที่รับไม่ได้คือ รัฐวิสาหกิจจีนที่ละเมิดระบบกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า ในความพยายามเชิงยุทธศาสตร์ระดับโลกเพื่อควบคุมทรัพยากร” ปาล์มเมอร์ระบุ