เอพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ทูตพิเศษขององค์การสหประชาชาติเผยในวันอังคาร (19) โดยระบุว่า กองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นที่จะถูกส่งเข้าไปรักษาความสงบเรียบร้อยใน “สาธารณรัฐแอฟริกากลาง” ในวันที่ 15 กันยายนนี้จะมีกำลังพลซึ่งประกอบไปด้วยทหารและตำรวจรวม 7,600 นาย
พลเอก บาบาการ์ กาเย วัย 63 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพเซเนกัล ในฐานะทูตพิเศษของสหประชาชาติ ว่าด้วยการสร้างเสถียรภาพในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง กล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวันอังคาร (19) โดยยืนยัน กำลังพลชุดแรกที่ยูเอ็นจะส่งเข้าไปปฏิบัติภารกิจในแอฟริกากลาง นับตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนเป็นต้นไปนั้น จะมีจำนวนในขั้นต้นที่ราว 7,600 นาย หรือคิดเป็น 65 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนกำลังพลทั้งหมดเกือบ 12,000 นายที่ทางคณะมนตรีความมั่นคงฯอนุมัติไว้ตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายน
ขณะที่ปีเตอร์ วิลสัน อัครราชทูตอังกฤษประจำยูเอ็นในฐานะประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงฯ นัดล่าสุดออกมาเปิดเผยเพิ่มเติมว่า สหประชาชาติจะทยอยส่งกองกำลังรักษาสันติภาพ เข้าไปในสาธารณรัฐแอฟริกากลางอย่างต่อเนื่องแต่คาดว่า อาจต้องรอจนถึงช่วงต้นปีหน้า กว่าที่การส่งกำลังพลทั้งหมดเกือบ 12,000 นาย เข้าไปยังอดีตอาณานิคมของฝรั่งเศสแห่งดังกล่าวจะลุล่วง
ทั้งนี้ สาธารณรัฐแอฟริกากลางตกอยู่ในสภาพไร้ขื่อแป หลังกลุ่มกบฏมุสลิมที่เรียกตัวเองว่า “เซเลกา” บุกโค่นอำนาจรัฐบาลในกรุงบังกี เมืองหลวงของประเทศเมื่อเดือนมีนาคมปี 2013 หลังจากนั้นสมาชิกกลุ่มกบฏมุสลิมได้ลงมือก่อเหตุปล้น ข่มขืน และฆาตกรรมชาวคริสต์แบบไม่เลือกหน้า เป็นเหตุให้พวกชาวคริสต์รวมตัวกันจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธของตนเองขึ้นมาบ้าง และก่อการแก้แค้นในลักษณะเดียวกันต่อชาวมุสลิม โดยการแก้แค้นกันไปมาระหว่างชาวคริสต์และชาวมุสลิมได้บานปลายกลายเป็นสงครามกลางเมือง ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วหลายพันคน
สถานการณ์ในสาธารณรัฐแอฟริกากลางยังคงไม่ดีขึ้น แม้กลุ่มกบฏมุสลิมเซเลกาจะถูกบีบให้ต้องสละอำนาจทางการเมืองเมื่อเดือนมกราคม ขณะที่กองกำลังของชาวมุสลิมและชาวคริสต์ยังคงฆ่าฟันกันอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ แม้จะมีการลงนามในข้อตกลงหยุดยิงต่อกันไปเมื่อ 23 กรกฎาคม ส่วนทางด้านทหารฝรั่งเศสจำนวนกว่า 2,000 นาย และทหารจากองค์การเอกภาพแอฟริกัน (เอยู) อีกเกือบ 6,000 คนต่างประสบความล้มเหลวในการฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยให้กลับคืนมา