เอพี/รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-เกิดเหตุกลุ่มกบฏมุสลิมพร้อมอาวุธปืนและมีด บุกสังหารโหดชาวบ้านในหมู่บ้านหลายแห่งในเขตชนบทห่างไกลของสาธารณรัฐแอฟริกากลาง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 34 ราย ทั้งนี้ เป็นการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
รายงานข่าวซึ่งอ้างเบียงเวนู ซาราปาตา นายกเทศมนตรีเมืองเอ็มเบรอส์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงบังกี เมืองหลวงของประเทศไปทางตอนเหนือออกมาเปิดเผยในวันเสาร์ (16) โดยระบุ กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุสังหารโหดชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง ตลอดหลายวันที่ผ่านมา เป็นอดีตสมาชิกของกลุ่มกบฏมุสลิม “เซเลกา” ที่เคยยึดอำนาจการปกครองประเทศไว้นานกว่า 10 เดือนนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2013 ก่อนจะสละอำนาจเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
หลังสูญเสียอำนาจทางการเมือง มีข้อมูลว่า อดีตนักรบของกลุ่มเซเลกาบางส่วน ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศ และก่อการโจมตีขึ้นหลายครั้งเพื่อปล้นสะดมชาวบ้าน ท่ามกลางภาวะสุญญากาศด้านความมั่นคงในช่วงที่กำลังทหารรักษาสันติภาพชุดใหม่ขององค์การสหประชาชาติ ยังคงรอการมาถึงของกำลังพลชุดใหม่ในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้
สาธารณรัฐแอฟริกากลางกลายเป็นดินแดนแห่งความไร้ขื่อแป หลังจากที่กลุ่มกบฏมุสลิมเซเลกาก่อรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองประเทศเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว และกองกำลังของพวกเซเลกา ได้เริ่มก่อเหตุสังหารโหดชาวคริสต์ที่เป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ขณะที่กลุ่มชาวคริสต์ได้จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธของตน เพื่อโจมตีแก้แค้นโดยมีชาวมุสลิมเป็นเป้าหมาย จนอดีตอาณานิคมของฝรั่งเศสแห่งนี้เข้าสู่ภาวะสงครามกลางเมือง
ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติมีกำหนดส่งทหารรักษาสันติภาพจำนวน 12,000 นาย เข้าไปประจำการในสาธารณรัฐแอฟริกากลางในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ ขณะที่ทหารจากองค์การเอกภาพแอฟริกัน (เอยู) ที่เข้าประจำการในดินแดนแห่งนี้อยู่ก่อนแล้วก็มีจำนวนกำลังพลราว 6,000 นาย รวมถึง อดีตประเทศเมืองแม่อย่างฝรั่งเศสที่ส่งกำลังทหารของตนเข้ามาในแอฟริกากลางราว 2,000 นายตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว