รอยเตอร์ - เครื่องบินขับไล่ของยูเครนถูกกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย ยิงตกทางภาคตะวันออกของยูเครนวันนี้ (17 ส.ค.) หนึ่งวันหลังจากผู้นำของกลุ่มออกมาเปิดเผยทางคลิปวีดีโอว่า พวกเขากำลังจะได้รับยานหุ้มเกราะ และนักรบที่ผ่านการฝึกฝนในรัสเซียกว่าพันคน โดยพวกเขามีแผนจะอาศัยยุทโธปกรณ์และกำลังรบชุดนี้โจมตีตอบโต้กองกำลังของรัฐบาลยูเครน
รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ยูเครน เยอรมนี และฝรั่งเศสได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุม ณ กรุงเบอร์ลิน ภายหลังที่บรรดาชาติมหาอำนาจตะวันตกได้ช่วยกันควบคุมเพลิง ที่มีชนวนเหตุมาจากการที่กองกำลังยูเครนออกมายอมรับว่า ได้ทำลายยานพาหนะของกองทัพรัสเซียที่เคลื่อนขบวนเข้าไปในยูเครน
กองทัพยูเครนกล่าวกับเอเอฟพีว่า เครื่องบินรบ MiG-29 ถูกยิงตก ขณะดำเนินภารกิจ “กวาดล้างขบวนการก่อการร้ายกลุ่มใหญ่” ตามที่ได้รับมอบหมาย ในแคว้นลูกันสค์ซึ่งเกิดเหตุสู้รบบ่อยครั้ง แต่นักบินก็สามารถเอาชีวิตรอดมาได้ด้วยการโดดร่มชูชีพ
บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในจังหวัดโดเนสค์ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นแห่งสำคัญของกลุ่มติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซียกล่าวว่า มีพลเรือนเสียชีวิตจากเหตุระดมยิงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาไป 10 คน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กองกำลังรัฐบาลยูเครนเดินหน้าปฏิบัติการจู่โจมขับไล่กลุ่มแบ่งแยกดินแดน ภายหลังเกิดเหตุสู้รบยืดเยื้อมานานถึง 4 เดือน จนทำให้มีผู้สังเวยชีวิตไปแล้ว 2,100 ราย และผลักให้โดเนสค์ไปอยู่ที่ริมขอบเหวของหายนะทางมนุษยธรรม
ในเวลาเดียวกัน เยอรมนีได้เรียกร้องให้มอสโกให้ความกระจ่าง ถึงกรณีที่ผู้นำกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียในเมืองโดเนสค์ออกมาคุยโตว่าเพิ่งได้รับกำลังเสริมเป็นนักรบกว่าพันคน ที่ผ่านการฝึกฝนในรัสเซีย เพื่อสนับสนุนการก่อกบฏที่อ่อนกำลังลง
วิกฤตความขัดแย้งทางภาคตะวันออกของยูเครนที่ยืดเยื้อมานาน 4 เดือนได้ล่วงเข้าสู่สภาวะวิกฤต โดยรัฐบาลเคียฟ และรัฐบาลชาติตะวันตกกำลังเฝ้าจับตามองอย่างเคร่งเครียดว่า รัสเซียจะเข้าแทรกแซงด้วยการส่งความช่วยเหลือให้กลุ่มกบฏ ที่กำลังเพลี่ยงพล้ำถูกกองกำลังยูเครนปิดล้อมหนักขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่มอสโกออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยมีเจตนาเช่นนั้น
อเล็กซันเดียร์ ซาฮาร์เชนโก นายกรัฐมนตรีของดินแดนทางภาคตะวันออกที่ประกาศตนเป็น “สาธารณรัฐประชาชนโดเนสค์” กล่าวว่ากลุ่มติดอาวุธอยู่ระหว่างรอรับยานหุ้มเกราะ 150 คัน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นรถถัง 30 คัน และนักรบอีก 1,200 คนที่ผ่านการฝึกฝนในรัสเซียมานาน 4 เดือน
เขาระบุผ่านทางวีดีโอที่บันทึกเมื่อวันศุกร์ (15) ว่า “(นักรบเหล่านี้) จะตามมาสมทบในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด” แต่ไม่ได้เปิดเผยว่า ยานพาหนะเหล่านั้นถูกส่งมาจากที่ใด
รัสเซียถูกบรรดาชาติตะวันตกคว่ำบาตรอย่างหนัก จากการผนวกแคว้นไครเมีย ดินแดนซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของยูเครน และยังถูกกล่าวหาว่า คอยจัดส่งเครื่องบินรบ อาวุธยุทโธปกรณ์ และเงินทุนสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออกของ ขณะที่มอสโกปฏิเสธข้อหาเหล่านั้น
โฆษกรัฐบาลเยอรมันแถลงว่า นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี และประธานาธิบดี เปโตร โปโรเชนโก แห่งยูเครนเห็นพ้องกันระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์วานนี้ (16) ว่า จะต้องตัดเส้นทางการส่งอาวุธให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครน และจะต้องทำให้กลุ่มติดอาวุธบรรลุข้อตกลงพักรบกับกองกำลังยูเครน ซึ่งเป็นท่าทีแสดงความวิตกกังวลต่อคำแถลงของกลุ่มติดอาวุธเมื่อล่าสุดนี้
ความเสี่ยงที่สงครามระหว่าง 2 ชาติ ที่มีอำนาจมากที่สุด ในบรรดาอดีตประเทศสหภาพโซเวียต จะปะทุขึ้นอย่างฉับพลันนั้นฉายแววเด่นชัดขึ้นเมื่อวันศุกร์ (15) ในเวลาที่ยูเครนแถลงว่า ได้ทำลายยานหุ้มเกราะบางส่วนของรัสเซียที่เคลื่อนขบวนเข้าสู่พรมแดนยูเครน
อย่างไรก็ตาม มอสโกไม่ได้แสดงท่าทีคุกคามเพื่อตอบโต้ โดยระบุแต่เพียงว่า คำบอกเล่าที่ว่า มียานเกราะของรัสเซียเคลื่อนขบวนเข้าอาณาเขตประเทศเพื่อนบ้านเป็น “เรื่องเพ้อฝัน”
วานนี้ (16) รองประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้พูดคุยกับโปโรเชนโก จากนั้นทำเนียบขาวแถลงว่า “ผู้นำทั้งสองได้เห็นพ้องต้องกันว่า รัสเซียได้ส่งขบวนรถหุ้มเกราะเข้าไปในพรมแดนยูเครน และยังเดินหน้าจัดหาอาวุธให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดน พร้อมๆ กับการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในภาคตะวันออกของยูเครน”
พาฟโล คลิมกิน รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนได้เรียกร้องให้องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ให้ความช่วยเหลือทางการทหารแก่กำลังทหารยูเครน
กลุ่มติดอาวุธซึ่งยอมสละการครอบครองพื้นที่ให้กองกำลังของรัฐบาลยูเครน ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ประกาศกร้าวว่าจะโจมตีโต้กลับมานานหลายวัน แต่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่ลงมือ
ทั้งนี้ การที่ ซาฮาร์เชนโก ออกมาแสดงทัศนะกระหายการต่อสู้เช่นนี้ ภายหลังที่เขาก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนโดเนสค์ต่อจาก อเล็กซันเดียร์ โบโรได เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อาจทำลายความหวังที่ว่า การเปลี่ยนตัวผู้นำกลุ่มแบ่งแยกดินแดนจะเป็นสัญญาณว่า พวกเขายินดีจะยุติความเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลเคียฟ