เอเอฟพี/รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศกร้าวในวันจันทร์ (28 ก.ค.) อิสราเอลต้องพร้อมสำหรับการสู้รบทางทหารที่อาจยืดเยื้อในฉนวนกาซา หลังพวกฮามาสยังระดมยิงปืนใหญ่ข้ามพรมแดนเข้ามาไม่หยุด คร่าชีวิตนายทหารในรัฐยิว 4 ราย แต่ยอดตายชองชาวปาเลสไตน์ก็พุ่งอย่างน้อย 1,054 ศพ กัดเซาะความหวังของนานาชาติที่ประสงค์เห็นทั้งสองฝ่ายหยุดยิงในทันที
“เราจำเป็นต้องพร้อมสำหรับการสู้รบที่ยืดยาว” นายเนทันยาฮูปราศรัยผ่านสถานีโทรทัศน์ที่ออกอากาศสด ไม่นานหลังจากมีข่าวว่ามีการยิงจรวดเข้ามายังเขตเอชโคล ซึ่งมีรายงานว่าพบผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 12 คนเช่นกัน
“พลเมืองอิสราเอลไม่อาจใช้ชีวิตอยู่ได้ภายใต้ภัยคุกคามจากจรวดและจากอุโมงค์แห่งความตาย ความตายที่มาจากทั้งด้านบนและเบื้องล่าง” เขากล่าว “เราจะไม่หยุดปฏิบัติการนี้โดยปราศจากการพังทลายของอุโมงค์เหล่านั้นซึ่งถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์เดียวก็คือเข่นฆ่าประชาชนของเรา” อ้างถึงอุโมงค์ลับข้ามพรมแดนที่พวกนักรบใช้ลักลอบเข้ามาก่อเหตุความรุนแรงทางภาคใต้ของอิสราเอล
อิสราเอลเริ่มต้นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม เพื่อสกัดการยิงจรวดข้ามแพรมแดนของพวกฮามาส จากนั้นก็ขยายขอบเขตสู่ปฏิบัติการภาคพื้นในวันที่ 17 กรกฎาคม อ้างว่ามีเป้าหมายคือทำลายอุโมงค์ลับของพวกนักรบ
“การจัดการกับอุโมงค์เป็นก้าวย่างแรกที่สำคัญต่อเขตปลอดทหารในฉนวนกาซา เช่นเดียวกับการปลดอาวุธของพวกนักรบที่ต้องเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการแก้ไขปัญหา และประชาคมนานาชาติจำเป็นต้องยืนยันในเรื่องนี้” นายเนทันยาฮูกล่าว พร้อมเรียกร้องประชาคมนานชาติตรวจสอบและตรวจตราการลำเลียงวัสดุก่อสร้างเข้าไปยังฉนวนกาซา ซึ่งเขาอ้างว่าอาจถูกใช้ในการก่อสร้างอุโมงค์
ด้านรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลก็เตือนเช่นกันว่า อาจต้องสู้รบเป็นเวลานานจนกว่าสถานการณ์จะกลับคืนสู่ความสงบ ส่วนประธานคณะเสนาธิการทหาร ก็ย้ำถึงคำเตือนให้พลเรือนในกาซา ปลีกตัวออกจากพวกฮามาส
จนถึงตอนนี้มีชาวปาเลสไตน์แล้วอย่างน้อย 1,054 คนที่ต้องมาจบชีวิตในความขัดแย้ง 3 สัปดาห์ ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ส่วนอิสราเอลสูญเสียทหารไปในเหตุสู้รบในกาซา 43 นาย และมีพลเรือนเสียชีวิตจากการยิงจรวดข้ามพรมแดนของพวกฮามาส 3 คน ในจำนวนนี้เป็นคนงานชาวไทย 1 คน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า พวกนักรบปาเลสไตน์ออกมาจากฉนวนกาซาและลักลอบเข้าไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง จนเกิดปะทะกับทหารอิสราเอลในช่วงค่ำวันจันทร์ (28) แม้มีเสียงเรียกร้องหยุดยิงชั่วคราวเพื่อมนุษยธรรมทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข ในเทศกาลอิด อัล-ฟิตร์ เพื่อฉลองการสิ้นสุดเทศกาลถือศีลอดเดือนรอมฎอนของชาวมุสลิม
สถานีโทรทัศน์อิสราเอลรายงานว่า เหตุปะทะครั้งนี้มีมือปืนถูกสังหารไป 5 คน แต่พวกฮามาสก็อ้างว่าสามารถปลิดชีพทหารยิวได้ 10 ราย ซึ่งชัดเจนว่ามันจะกัดเซาะความหวังอันน้อยนิดของนานาชาติที่จะเปลี่ยนการสู้รบที่สงบเป็นพักๆ นี้เข้าสู่ข้อตกลงหยุดยิงระยะยาว
ตามหลังกลยุทธ์เข้าแทรกซึมหมู่บ้านซึ่งอยู่ทางตะวันออกของกาซา ทางกองทัพอิสราเอลได้เตือนชาวปาเลสไตน์หลายพันคนทั้งในและรอบๆ กาซาซิตี ให้อพยพออกจากบ้านเรือน บ่งชี้ว่าจะมีการปฏฺิบัติการโจมตีทางอากาศแก้แค้นในไม่ช้า จากนั้นพอดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า พบเห็นแสงวาบจากอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ปลิวว่อนอยู่เหนือท้องฟ้าพร้อมกับเสียงปืนใหญ่ตูมสนั่นหวั่นไหวเป็นระยะ
กรณีนี้ไม่ใช่การละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางเพียงเหตุการณ์เดียว ด้วยพบเด็ก 8 ราย และผู้ใหญ่ 2 คนเสียชีวิตจากเหตุระเบิดในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งทางเหนือของกาซา ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าทหารอิสราเอล 4 นายเสียชีวิตจากการยิงปืนครกข้ามพรมแดนเข้ามาของพวกนักรบปาเลสไตน์
ชาวบ้านกล่าวโทษเหตุระเบิดที่สวนสาธารณะที่มีผู้ใหญ่ได้รับบาดเจ็บอีก 40 คนว่าเป็นการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล แต่รัฐยิวบอกว่าเป็นฝีมือการยิงจรวดของพวกนักรบฉามาส ทั้งนี้สื่อมวลชนอิสราอลรายงานด้วยว่ามีทหารยิวเสียชีวิตจากกระสุนปืนครกในอีกหนึ่งเหตุการณ์นอกกาซา แต่ทางกองทัพปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อรายงานดังกล่าว