xs
xsm
sm
md
lg

นายกอินเดียกร้าวใส่เกียร์เดินหน้า “เจ้าหน้าที่รัฐ” ยันประชาชนควรได้มี “บัญชีเงินเก็บ” ถ้วนหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แห่งอินเดีย
เออฟพี/รอยเตอร์ – นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แห่งอินเดียแสดงความท้อใจในวันนี้ (15) หลังจากที่ได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนพฤษภาคม ซึ่งทำให้เขาได้พบเจ้าหน้าที่รัฐที่เย่อหยิ่ง ถือดี โดยเขาให้คำมั่นว่าจะใส่เกียร์ให้ระบบองค์กรของรัฐเดินหน้าสร้างผลงานต่างๆ ออกมาให้จงได้ พร้อมรับประกันด้วยว่า ชาวภารตะจะต้องมีสมุดบัญชีเงินฝากกันทุกคน เพื่อลดอัตราการฆ่าตัวตายที่สูงลิ่วของชาวไร่ชาวนาที่ไม่มีปัญญาใช้หนี้บรรดาเจ้าหนี้ขาโหด

ในการกล่าวปราศรัยเนื่องในวันประกาศอิสรภาพเป็นครั้งแรกของเขา โมดี กล่าวว่า อินเดียไม่อาจเดินหน้าต่อไปได้ ถ้าภายในรัฐบาลยังขาดความสามัคคี และยังเน้นย้ำว่า เป้าหมายหลักๆ ของเขาอยู่ที่การดำเนินงานของรัฐบาล โดยเลี่ยงที่จะแถลงชี้แจงเรื่องการปฏิรูปขนานใหญ่ต่างๆ

อย่างไรก็ตาม โมดี ประกาศจะริเริ่มพัฒนาการเข้าถึงบริการทางการเงินสำหรับชาวแดนภารตะราว 2 ใน 5 ที่ยังไม่มีบัญชีธนาคารและบ่อยครั้งที่ต้องอาศัยความปรานีจากบรรดาเจ้าหนี้ที่คิดดอกเบี้ยเกินควร

“ทำไมชาวไร่ชาวนาของเราถึงฆ่าตัวตายน่ะหรือ ก็เพราะว่าพวกเขาต้องกู้เงินในอัตราดอกเบี้ยที่สูงลิ่วจากบรรดาผู้ให้กู้น่ะสิ” เขากล่าว

“ผมได้เห็นแล้วว่า ใน1 รัฐบาลก็ยังมีรัฐบาลเล็กๆ แยกย่อยออกไปอีก....มันเหมือนกับว่าพวกเขาแต่ละคนมีพื้นที่ปกครองของพวกเขาเอง” เขากล่าว โดยพูดถึงประเด็นสำคัญที่ทำให้ชาวอินเดียจำนวนมาก มองว่าระบบองค์กรของรัฐเป็นตัวถ่วงความเจริญของประเทศ

ทั้งนี้ รัฐบาลก่อนหน้าที่นำโดยพรรคคองเกรสถูกมองว่าไร้ประสิทธิภาพและไม่สามารถดำเนินการปฏิรูปได้ เนื่องจากกระทรวงต่างๆ ของรัฐบาลไล่ตั้งแต่ กระทรวงการคลัง จนถึง กระทรวงสิ่งแวดล้อม ต่างทำงานด้วยจุดประสงค์ที่ขัดแย้งกัน

“รัฐบาลไม่ใช่สิ่งที่ประกอบรวมกัน แต่เป็นองค์กรหนึงเดียว ผมได้พยายามที่จะทลายกำแพงนี้” โมดี กล่าวปราศรัยจากเชิงเทินของป้อมปราการแดง (Red Fort) ที่สร้างขึ้นในยุคศตวรรษที่ 17 และเป็นที่ซึ่งบรรดากษัตริย์ราชวงศ์โมกุลปกครองเดลีมาเป็นเวลากว่า 2 ศตวรรษ

โมดี ยังได้พูดถึงเรื่องความรุนแรงต่อสตรี โดยระบุว่า เขารู้สึกอับอายขายหน้าเสมอเวลาที่ดูรายงานข่าวการข่มขืนทั่วประเทศ และชี้ว่า ขณะที่กฎหมายจะทำหน้าที่ของมันเอง สังคมอินเดียก็จะต้องสั่งสอนเหล่าบุตรชายของตนให้มีความเป็นสุภาพชนด้วย

“ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ผู้ก่อคดีข่มขืนก็คือบุตรชายของใครสักคน ในฐานะพ่อแม่ เราได้สอบถามลูกชายของเราหรือไม่ว่าเขากำลังจะไปไหน? เป็นความรับผิดชอบของเราที่จะต้องนำพาลูกชายของเราที่หลงผิดไปกลับมาสู่เส้นทางที่ถูกที่ควร”

กำลังโหลดความคิดเห็น