เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีโลร็องต์ ซัลวาดอร์ ลาโมธ แห่งเฮติ เผยในวันอังคาร (12) โดยระบุว่าสามารถติดตามจับกุมตัวนักโทษกลับคืนมาได้อย่างน้อย 19 คน หลังเกิดเหตุนักโทษจำนวนมากกว่า 300 คน แหกคุกหลบหนีออกจาก “เรือนจำความมั่นคงสูง” แห่งหนึ่งไม่ไกลจากกรุงปอร์โต-แปรงซ์ เมืองหลวงของประเทศ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ลาโมธ วัย 41 ปี ซึ่งก้าวขึ้นครองอำนาจในฐานะนายกรัฐมนตรีของเฮติตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2012 ระบุว่า หนึ่งในนักโทษที่ถูกติดตามจับกุมกลับมาได้ในครั้งนี้มีชื่อของ “คลิฟฟอร์ด บรันด์ต” อดีตนักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพลที่ถูกดำเนินคดีเมื่อ 2 ปีก่อนในความผิดฐานลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่รวมอยู่ด้วย
รายงานข่าวระบุว่า บรันด์ต และผู้ช่วยคนสนิทของเขาอีก 3 คนถูกจับกุมตัวได้ ที่บริเวณรอยต่อพรมแดนเฮติกับสาธารณรัฐโดมินิกัน และการจับกุมตัวอดีตนักธุรกิจดังรายนี้เป็นผลพวงมาจากความร่วมมือระหว่างทางการเฮติ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจของโดมินิกัน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอาทิตย์ (10 ส.ค.) ที่ผ่านมา เหล่านักโทษภายในเรือนจำความมั่นคงสูงของรัฐบาลเฮติ ที่เมือง ครัวซ์ เดอส์ บูเกต์ส ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงปอร์โต-แปรงซ์ เมืองหลวงของประเทศไปทางตะวันออกเฉียงเหนือเพียงไม่กี่กิโลเมตร ได้รวมตัวกันก่อเหตุวุ่นวายซึ่งนำไปสู่การแหกคุกหลบหนีของนักโทษจำนวนมากกว่า 300 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 897 คนภายในเรือนจำแห่งนี้ โดยในบรรดานักโทษที่แหกคุกหลบหนีออกไปได้ในครั้งนี้มีพวกที่ก่อความผิดฐานค้ายาเสพติด และพวกลักพาตัว-เรียกค่าไถ่รวมอยู่ด้วย
หลังเกิดเหตุ นายกรัฐมนตรีลาโมธแห่งเฮติให้คำมั่นว่าจะเร่งปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยในเรือนจำดังกล่าว รวมถึงเรือนจำแห่งอื่นๆ ของประเทศ โดยเตรียมเพิ่มการติดตั้งกล้องวงจรปิดในเรือนจำ ตลอดจนติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่อสัญญาณดาวเทียมเข้ากับนักโทษแต่ละราย
ทั้งนี้ เรือนจำความมั่นคงสูงที่เมืองครัวซ์ เดอส์ บูเกต์สของเฮตินั้นถูกสร้างขึ้นโดยเงินบริจาคจำนวนมากกว่า 5.7 ล้านดอลลาร์จากรัฐบาลแคนาดา เมื่อปี 2012
