เอเอฟพี - หญิงสาวชาวไทยที่รับอุ้มท้องแทนคู่สามีภรรยาชาวออสเตรเลีย ก่อนจะให้กำเนิดทารกป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรม กล่าวในวันนี้ (12 ส.ค.) ว่า พ่อชาวออสซี “ไม่มีสิทธิ” นำลูกของเธอไป ภายหลังที่คู่สามีภรรยาชาวออสซีซึ่งถูกกล่าวหาว่า “ทอดทิ้งเด็ก” ออกมาประกาศกร้าวว่า จะพยายามนำตัวน้องแกรมมี่กลับคืนมา
น้องแกรมมี่ ทารกเพศชายวัย 7 เดือนคนนี้ ได้ตกเป็นกรณีอื้อฉาว นับตั้งแต่ที่มีการเปิดโปงว่า เดวิด ฟาร์เนล พ่อทางชีวภาพ และภรรยาของเขาได้ทอดทิ้งทารกน้อยไว้กับ ภัทรมน จันทร์บัว แม่อุ้มบุญชาวไทย แต่กลับนำน้องสาวฝาแฝดน้องแกรมมี่ซึ่งมีชื่อว่า “พิพา” ที่มีสุขภาพแข็งแรงดีกลับไปออสเตรเลียไปด้วย
ในการให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เหตุการณ์นี้จุดประกายให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลก ฟาร์เนล วัย 56 ปี ซึ่งเคยต้องโทษคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็ก และ เวนดี ภรรยาของเขาอ้างว่า ที่จริงแล้วพวกเขาต้องการพาลูกชายกลับบ้าน แต่ต้องปล่อยเขาทิ้งไว้ในไทย เนื่องจากเกรงว่าภัทรมนจะพรากพิพาไปจากพวกเขา
เมื่อวันอาทิตย์ (10) เขาให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์แชนแนลนายน์ว่า “(ที่ออสเตรเลีย) เราต้องการมั่นใจว่าพิพาจะปลอดภัย และไม่มีใครมาพรากเธอไปจากเรา” พร้อมทั้งอธิบายว่า เนื่องจากทารกเพศหญิงเกิดในไทย จึงยังไม่ได้รับการพิจารณาว่าเป็นชาวออสเตรเลียอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
“เมื่อเรามั่นใจว่าเธอจะปลอดภัยอยู่กับเรา 100 เปอร์เซ็นต์ เราก็ยังสามารถพาตัวลูกชายกลับมาได้”
อย่างไรก็ตาม ภัทรมน วัย 21 ปี กล่าวว่า พวกเขาไม่สามารถนำตัวลูกของเธอกลับไป โดยชี้ว่า น้องแกรมมี่เป็นเด็กที่เกิดจากสเปิร์มของฟาร์เนลปฏิสนธิในไข่ใบหนึ่ง ที่ได้รับบริจาคจากหญิงไทย ก่อนจะนำมาฝังในครรภ์ของเธอ โดยเธอได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 14,900 ดอลลาร์สหรัฐฯ (4.79 แสนบาท)
วันนี้ (12) เธอให้สัมภาษณ์เอเอฟพีผ่านทางโทรศัพท์ว่า “หากเขาอยากได้ตัวลูกดิฉัน เป็นไปไม่ได้แน่นอน ไม่ว่าเขาจะพยายามอย่างหนักขนาดไหน ฉันก็ไม่มีทางยอมเป็นอันขาด”
“หากเขาต้องการพบเด็ก ดิฉันก็จะยอมให้เขามาหา แต่เขาไม่มีสิทธิเอาตัวลูกดิฉันไป”
ทั้งนี้ สองสามีภรรยาชาวออสซีคู่นี้ได้ชี้แจงเหตุผลที่ต้องปล่อยน้องแกรมมี่ไว้ในไทย ไม่ตรงกับคำบอกเล่าของภัทรมน
ก่อนหน้านี้ ครอบครัวฟาร์เนล จากเมืองบันเบอรี ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย กล่าวว่า แพทย์บอกพวกเขาว่าน้องแกรมมี่เป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด แต่ไม่ได้บอกว่าน้องป่วยเป็นดาวน์ซินโดรมด้วย และที่พวกเขาต้องทิ้งน้องไว้ก็เพราะหมอบอกว่าน้องจะมีชีวิตอยู่ได้ประมาณวันเดียว
ทางฝ่าย ภัทรมน ยังยืนกรานว่า คลินิกที่รับทำผสมเทียม กล่าวว่า ทันทีที่แพทย์ตรวจพบว่า ทารกเพศชายป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรม คู่รักชาวออสเตรเลียก็ต้องการให้เธอเอาเด็กออก ซึ่งผิดกฎหมายไทย แต่เธอก็ปฏิเสธไป
ระหว่างการให้สัมภาษณ์ในวันอาทิตย์ (10) ฟาร์เนลได้ปฏิเสธว่า ตัวเขาและภรรยาไม่ได้ขอให้เธอทำแท้ง แต่กล่าวว่า มีแวบหนึ่งที่พวกเขาคิดจะทำเช่นนั้น พร้อมกับยอมรับว่า พวกเขาไม่ได้พยายามติดต่อกลับมาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบน้องแกรมมี่ นับตั้งแต่เดินทางออกจากไทย
ภายหลังที่ข่าวอื้อฉาวนี้แพร่สะพัดออกไป รัฐบาลไทยก็เสนอจะออกกฎหมายควบคุมการอุ้มบุญให้เข้มงวดรัดกุมขึ้น
ทางด้าน รัฐบาลแดนจิงโจ้ได้ออกมาเรียกร้องให้มีช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน ก่อนที่รัฐบาลไทยจะประกาศข้อห้ามอุ้มบุญเชิงพาณิชย์ใดๆ ก็ตาม เพื่อปกป้องพลเมืองชาวออสเตรเลียที่ว่าจ้างหญิงไทยอุ้มบุญในช่วงก่อนหน้านี้