สื่อแดนจิงโจ้เผย พ่อชาวออสซี่ที่ถูกกล่าวหาว่าทิ้งลูกไว้กับ “แม่อุ้มบุญชาวไทย” ต้องคดี “ลวนลามเด็ก”

เอเอฟพี - รายงานข่าววันนี้ (5 ส.ค.) ระบุว่า พ่อชาวออสเตรเลียที่ถูกกล่าวหาว่า ทอดทิ้งทารกเพศชายป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรมไว้ในไทย เคยถูกพิพากษาลงโทษในความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ทางด้านแม่อุ้มบุญกล่าวว่า เธอยินดีจะรับน้องสาวฝาแฝดของเด็กชายมาเลี้ยง หากข้อกล่าวดังกล่าวเป็นความจริง

การเปิดเผยครั้งนี้มีขึ้นในเวลาที่ชายคนดังกล่าว และภรรยาออกมากล่าวหาว่า แม่อุ้มบุญชาวไทยที่ให้กำเนิดน้อง “แกมมี” กำลังลวงโลก

สามีภรรยาคู่นี้ ซึ่งจำเป็นต้องปกปิดชื่อด้วยเหตุผลทางกฎหมาย ได้ถูกรุมวิจารณ์อย่างหนัก จากการที่ไม่ยอมรับลูกชายไปเลี้ยงเมื่อตอนแรกเกิด แต่พาน้องสาวฝาแฝดสุขภาพแข็งแรงกลับไปยังบ้านในเมืองบันเบอรี ทางตอนใต้ของเมืองเพิร์ธ

สำนักข่าว “ออสเตรเลียน แอสโซซิเอเต็ด เพรส” (เอเอพี) เปิดเผยว่า เอกสารของศาลแสดงให้เห็นว่า ชายคนหนึ่งซึ่งเชื่อว่า น่าจะเป็นพ่อวัย 56 ปีของน้องแกมมี ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิง 3 คน

เครือข่ายสถานีโทรทัศน์เอบีซีของทางการแดนจิงโจ้รายงานเพิ่มเติมว่า เขาเคยถูกจำคุกฐานล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิง 2 คนที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี ตอนที่เขาอายุเพียง 20 ปีเศษ นอกจากนี้ เมื่อปี 1997 เขายังถูกตั้งข้อกล่าวหา 6 ข้อจากการทำหยาบโลนกับเด็กคนหนึ่ง

รายงานอื่นๆ ระบุว่า มีการติดต่อขอให้ศูนย์คุ้มครองเด็กเข้ามาสอบสวนว่า เขามีความเหมาะสมหรือไม่ แม้ว่าจะหน่วยงานเหล่านั้นจะไม่สามารถยืนยันเรื่องนี้กับเอเอฟพีได้ และตำรวจยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ

ภัทรมน จันทร์บัว ซึ่งเป็นแม่อุ้มบุญของแกมมี ยืนกรานว่า จะเลี้ยงทารกเพศชายวัย 7 เดือนคนนี้เอง ภายหลังระบุว่า ตอนแรกคู่รักชาวออสเตรเลียที่เป็นพ่อแม่บังเกิดเกล้าของแกมมี ขอให้เธอทำแท้ง และเดินหนีไปเมื่อทราบว่าเขามีอาการป่วยรุนแรง

อย่างไรก็ตาม สามีภรรยาชาวออสเตรเลียคู่นี้ ระบุในคำแถลงซึ่งเพื่อนของพวกเขานำออกเผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์ออสซี่ “บันเบอรี เมล” ว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริง และพวกเขาไม่ทราบว่าแกมมีเป็นดาวน์ซินโดรม ถึงแม้จะทราบว่าเขาเป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด

หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนของบุคคลทั้งสองระบุกับหนังสือพิมพ์ว่า “ตอนเกิดมาแกมมีป่วยมาก และพ่อแม่บังเกิดเกล้าก็ได้รับแจ้งว่าเขาอาจไม่รอดชีวิต และอย่างดีที่สุดเขาจะมีเวลาพูดคำลา เพียงวันเดียว” แต่หญิงผู้นี้ไม่ได้เปิดเผยว่า ใครเป็นคนบอกพวกเขาเช่นนั้น

หนังสือพิมพ์เจ้านี้ยังรายงานด้วยว่า ที่จริงแล้ว ฝาแฝดคู่นี้ควรจะถือกำเนิดที่โรงพยาบาลนานาชาติชั้นนำของไทย แต่ภัทรมนกลับไปคลอดที่โรงพยาบาลอีกแห่ง จึงทำให้ข้อตกลงการอุ้มท้องแทนมีผลเป็นโมฆะ

รายงานระบุว่า การทำเช่นนี้หมายความว่า สองสามีภรรยาไม่มีสิทธิตามกฎหมายในตัวทารกทั้งสอง แม้ว่าในท้ายที่สุดแล้วแม่อุ้มบุญจะยกทารกเพศหญิงให้ก็ตาม

เพื่อนผู้นี้กล่าวว่า “พ่อแม่บังเกิดเกล้ารู้สึกใจสลาย ที่ไม่สามารถพาลูกชายกลับไปด้วย และไม่เคยอยากจะยกเด็กคนนั้นให้ใคร แต่ถ้าหากเขายังอยู่ไทยต่อไป ก็ทำให้พวกเขาเสี่ยงที่จะเสียลูกสาวไปอีกคน”

เธอกล่าวเสริมว่า ข้อกล่าวหาที่ว่า สามีภรรยาคู่นี้ “เมิน” แกมมี ตอนมาถึงโรงพยาบาลนั้นไม่เป็นความจริง นอกจากนั้นพวกเขายังซื้อของขวัญไปให้ลูกทั้งสองด้วย

เพื่อนผู้นี้เล่าว่า คู่รักชาวออสเตรเลียอยู่ในไทยได้เพียง 2 เดือน ก็เกิดเหตุไม่สงบทางการเมือง ในช่วงที่มีการประกาศกฎอัยการศึก พวกเขาจึงจำเป็นต้องเดินทางกลับประเทศโดยไม่ได้พาแกมมีไปด้วย