เอเอฟพี - องค์การนิรโทษกรรมสากลวันนี้ (11 ส.ค.) ได้ตีพิมพ์รายงานฉบับหนึ่ง ซึ่งระบุว่า ครอบครัวของพลเรือนในอัฟกานิสถานหลายพันคน ที่ถูกกองกำลังสหรัฐฯ เข่นฆ่า ยังคงไม่ได้รับความยุติธรรมหรือเงินชดเชยใดๆ โดยนับเป็นการกล่าวหากองทัพอเมริกัน ในเวลาที่แดนอินทรีเริ่มถอนกำลังทหารออกจากประเทศนี้
รายงานฉบับนี้ระบุว่า องค์การนิรโทษกรรมสากลได้รวบรวมหลักฐานต่างๆ ที่ชี้ว่า กระบวนการยุติธรรมที่กองทัพสหรัฐฯ ใช้รับมือกรณีที่มีพลเรือนชาวอัฟกันบาดเจ็บล้มตาย จากปฏิบัติการทหารโดยกองกำลังผสมขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) นับตั้งแต่ปี 2011 นั้นมีความขาดตกบกพร่องอย่างร้ายแรง และหล่อหลอมวัฒนธรรมของการละเว้นการลงโทษ
ประธานาธิบดี ฮามิด คาร์ไซ แห่งอัฟกานิสถานได้ออกมากล่าวประณามกองกำลังของสหรัฐฯ อยู่บ่อยครั้ง จากกรณีที่พวกเขาทำให้พลเรือนอัฟกันเสียชีวิต แต่กองกำลังสนับสนุนด้านความมั่นคงนานาชาติ (ISAF) ของนาโตระบุว่า ได้ตรวจสอบข้อกล่าวหาที่ว่า กองกำลังสังหารพลเรือนอย่างจริงจังทุกข้อกล่าวหา และสืบสวนเหตุการณ์แต่ละครั้ง
รายงานฉบับนี้ระบุว่า คณะนักวิจัยขององค์การนิรโทษกรรมสากลได้สัมภาษณ์ชาวอัฟกัน 125 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์โจมตีซึ่งคร่าชีวิตพลเรือน 16 ครั้ง ตลอดจนตรวจทานข้อมูลของเหตุการณ์ตามที่ได้รับรายงาน 97 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2007
รายงานซึ่งมีชื่อว่า “Left in the Dark” ฉบับนี้ระบุว่า “ภายหลังที่เกิดเหตุการณ์ใดๆ ก็ตามที่มีพลเรือนถูกกองกำลังสหรัฐฯ สังหาร (สหรัฐฯ จะต้อง) สร้างความมั่นใจว่า... คนผิดจะถูกนำตัวมารับโทษ ในกรณีที่มีพยานหลักฐานที่ยอมรับได้มากพอ”
นอกจากนี้ รายงานฉบับดังกล่าวยังบอกเล่ารายละเอียดของเหตุการณ์กองกำลังสหรัฐฯ ใช้ระเบิดโจมตีเมื่อปี 2012 ขณะที่พวกผู้หญิงอัฟกันกำลังเก็บฟืนบนเทือกเขาในจังหวัดลักมาน
เหตุระเบิดครั้งนั้นได้ทำให้มีผู้หญิงและเด็กสาวเสียชีวิต 7 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 7 ราย
กูลัม นูร์ ซึ่งสูญเสียลูกสาวคนโตวัย 16 ปีชื่อ บีบิ ฮาลีมี ไปในเหตุโจมตีครั้งนั้น ได้นำร่างของพวกผู้หญิงไปยังที่ว่าการอำเภอ ภายหลังที่ได้ยินกองกำลังนาโตอ้างว่า มีแต่พวกกบฏเท่านั้นที่ตาย
เขากล่าวกับองค์การนิรโทษกรรมสากลว่า “เราต้องแสดงให้เขาเห็นว่า พวกที่ถูกฆ่าเป็นผู้หญิง”
“ผมไม่มีอำนาจที่จะไต่ถามกองกำลังนานาชาติว่า ทำไมเขาถึงทำแบบนี้ ผมไม่สามารถนำตัวพวกเขาไปขึ้นศาลได้”
องค์การนิรโทษกรรมสากลระบุว่า มีชาวบ้านยื่นคำร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัด แต่กองกำลังนานาชาติในอัฟกานิสถานได้รับการคุ้มกันจากกระบวนการทางกฎหมายในอัฟกานิถาน และไม่มีใครติดต่อไปยังสมาชิกครอบครัวผู้เสียชีวิต เพื่อเรียกมาสอบสวนเหตุโจมตีที่เกิดขึ้น
สำนักงานข่าวของกองกำลัง ISAF ในกรุงคาบูลได้ส่งเรื่องตามที่มีการร้องเรียนในรายงานฉบับนี้ไปให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ดำเนินการไต่สวน