เอเอฟพี - เหล่านักเรียนที่รอดชีวิตจาก “ภัยพิบัติเรือเฟอร์รี” เกาหลีใต้ให้การต่อศาลในวันนี้ (29 ก.ค.) โดยเล่าเหตุการณ์ขณะผู้โดยสารถูกลูกเรือทอดทิ้ง และวิธีการเฉพาะหน้าต่างๆ ที่ช่วยให้พวกเขารอดชีวิตมาได้ เป็นต้นว่า การใช้ “สายฉีดน้ำดับเพลิง” ดึงคนขึ้นมาขณะเรืออับปาง
บรรดานักเรียนวัยรุ่นมัธยมปลายต่างรื้อฟื้นความทรงจำอันเจ็บปวดจากโศกนาฏกรรม เมื่อวันที่ 16 เมษายน ที่คร่าชีวิตเพื่อนร่วมชั้นเรียนของพวกเขาไปถึง 250 คน ระหว่างการนัดสืบพยานนักเรียนผู้รอดชีวิตเป็นวันที่ 2 ในการพิจารณาคดีกับตันเรือเฟอร์รี “เซวอล” และลูกเรือ 14 คน
นักเรียนหญิงคนหนึ่งบรรยายวิธีที่ผู้โดยสารผู้ใหญ่คนหนึ่งใช้ช่วยชีวิตเธอ ขณะที่น้ำทะเลกำลังไหลทะลักเข้าไปในเรือเฟอร์รีที่เสียศูนย์รุนแรง
นักเรียนคนนี้ให้การว่า “ตอนแรก มีใครคนหนึ่งส่งชายผ้าม่านหน้าต่างลงมาให้หนูจับไว้ แต่หนูก็ลื่นตกลงไปอีก”
เธอระบุเพิ่มเติมว่า “จากนั้นก็มีผู้โดยสารอีกคนโยนสายฉีดน้ำดับเพลิงลงมา หนูเอามาผูกไว้รอบสะโพก แล้วเขาก็ดึงหนูขึ้นไป”
การตั้งข้อหาลูกเรือเฟอร์รีมากมายเกิดจากความจริงที่ว่า กัปตัน ลี จุนซอก และลูกเรือคนอื่นๆ ตัดสินใจทิ้งเรือลำนี้ ทั้งที่ยังมีผู้โดยสารหลายร้อยคนติดอยู่ภายในเรือที่กำลังเสียศูนย์รุนแรง ก่อนจะพลิกคว่ำในที่สุด
กัปตันลี และลูกเรืออาวุโสอีก 3 คนถูกกล่าวหาว่า “ประมาทโดยเจตนา จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียหายถึงแก่ชีวิต” ซึ่งเป็นข้อหาที่ทำให้พวกเขาอาจได้รับโทษประหารชีวิต
ส่วนลูกเรืออีก 11 คนถูกพิจารณาคดีในข้อหาละเมิดกฎหมายพาณิชย์นาวีที่มีโทษเบากว่า
ทั้งนี้ ในหมู่ลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมด 476 คน ที่บนเรือเฟอร์รีเซวอล ที่พลิกคว่ำและอับปางนอกชายฝั่งทางตอนใต้ มี 325 คน เป็นนักเรียนจากโรงเรียนมัธยมดาวอน ซึ่งกำลังเดินทางไปทัศนศึกษา แต่มีนักเรียนเพียง 75 คนเท่านั้นที่รอดตายมาได้
นักเรียนอีกคนหนึ่งกล่าวว่า เธอและเพื่อนร่วมชั้นเรียนอีกหลายคนติดอยู่ในห้องพักผู้โดยสารบนเรือ เนื่องจากมีสัมภาระตกลงมาขวาง ขณะที่เรือเฟอร์รีระวางขับน้ำ 6,825 ตันลำนี้เอียงไปด้านหนึ่ง
บรรดาผู้โดยสารที่อยู่ห้องติดกันได้ยินเสียงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ จึงพังประตูเข้าไปและดึงพวกเขาออกมายังทางเดิน
เธอกล่าวว่า “พวกเขาบอกให้เราใจเย็นๆ และใช้ผ้าม่านทำเป็นเชือก จากนั้นก็มีชายคนหนึ่งปีนขึ้นไป แล้วดึงเราออกมา”
ในท้ายที่สุด เฮลิคอปเตอร์ของหน่วยรักษาการณ์ชายฝั่งก็นำตัวพวกเขาออกจากเรือที่กำลังอับปางลำนี้
*** นักเรียน “กลืนหายไป” กับน้ำ ***
หน่วยรักษาการณ์ชายฝั่งแห่งชาติเกาหลีใต้ถูกรุมวิพากษ์วิจารณ์ ในเรื่องวิธีรับมือจัดการกับภัยพิบัติอย่างกว้างขวาง และวันนี้ (29 ก.ค.) อัยการแผ่นดินเผยว่า ได้เข้าจับกุมกัปตันเรือตรวจการณ์ลำหนึ่ง ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุมาสอบสวน
อัยการแผ่นดินชี้ว่า เขาอาจถูกดำเนินคดีในข้อหาปลอมแปลงเอกสารราชการ จากการข้อกล่าวหาที่ว่า เขาปลอมแปลงสมุดปูมเรือ (สมุดบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเดินเรือ รวมทั้งภารกิจกู้ภัย) เพื่อให้วิธีรับมือจัดการกับภัยพิบัติของหน่วยงานดูดีเกินจริง
การนัดสืบพยานที่ศาลในวันนี้ (29) สอดคล้องกับคำให้การเมือวานนี้ (28) โดยเหล่านักเรียนยืนกรานเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีลูกเรือคนไหนยอมช่วยเหลือพวกเขา พร้อมทั้งกล่าวว่า ผู้โดยสารถูกประกาศเตือนบนเรือให้อยู่กับที่ตอนที่เรือกำลังจม
นักเรียนทุกคนตัดสินใจให้การในห้องพิจารณาคดีใหญ่ ถึงแม้ก่อนหน้านี้ศาลได้เสนอให้พวกเขาให้การผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ก็ตาม
ทั้งนี้ การพิจารณาคดีเฟอร์รีเซวอล เปิดฉากขึ้นตั้งแต่เมื่อ 6 สัปดาห์ก่อน ณ เมืองกวางจู ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโซลลงไปทางใต้ 265 กิโลเมตร แต่ผู้พิพากษาและทนายความได้ย้ายมาปักหลักในศาลอันซาน ระหว่างนัดสืบพยานนักเรียนผู้รอดชีวิตทั้งสิ้น 17 คน เป็นเวลา 2 วัน
โรงเรียนมัธยมปลายดาวอนตั้งอยู่ในเมืองอันซาน
นักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์อีกคนเล่าว่า ต้องทนดูเพื่อนร่วมชั้นเรียนกลุ่มหนึ่งถูก “กลืนหายไป” กับน้ำ ขณะที่น้ำทะเลไหลทะลักเข้าและออกจากเรือเฟอร์รี
นักเรียนส่วนใหญ่สวมเสื้อชูชีพจึงสามารถโผล่พ้นระดับผิวน้ำ เมื่อน้ำทะเลเริ่มไหลทะลักเข้ามาทางหน้าต่างเรือ
เขากล่าวว่า แต่เมื่อเรือเอียงไปอีกด้านน้ำก็เริ่มไหลเข้าไปยังด้านในตัวเรือเฟอร์รี จากนั้น “นักเรียนก็ถูกถูกพัดพาและกลืนหายไปเป็นจำนวนมาก”
ที่เขารอดชีวิตมาได้ก็เพราะเท้าของเขาติดอยู่กับวงกบประตู และเมื่อน้ำเริ่มขึ้นสูงอีกครั้ง เขาก็หลุดออกมาและปีนออกนอกตัวเรือได้สำเร็จ