เอเอฟพี - เหล่านักเรียนมัธยมปลาย ที่รอดชีวิตจาก “ภัยพิบัติเรือเฟอร์รี” เกาหลีใต้ได้เริ่มให้การเป็นพยาน ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์โดยมีการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างรัดกุมในวันนี้ (28 ก.ค.) ระหว่างการพิจารณาคดีกัปตันและบรรดาลูกเรือที่ถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตาย
ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่บรรดาผู้รอดชีวิต ซึ่งทั้งหมดเป็นนักเรียนมัธยมปลายดาวอน ในเมืองอันซาน ทางตอนใต้ของกรุงโซลจะให้ปากคำในการพิจารณาคดี ที่เปิดฉากขึ้นเมื่อกว่าหนึ่งเดือนที่แล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังอย่างแน่นหนา เพื่อสกัดกั้นไม่ให้สาธารณชนเข้าไปในศาลแขวงซูวอน ในเมืองอันซาน ชานกรุงโซล ในเวลาที่รถบัสสีแดงพานักเรียนที่พร้อมจะให้ปากคำมาถึงศาล จากนั้นพวกเขาก็ก้าวลงจากรถเข้าไปในศาล โดยได้รับการคุ้มกันจากตำรวจกลุ่มใหญ่
ทั้งนี้ การพิจารณาคดีจริงๆ เกิดขึ้นที่เมืองกวางจู ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโซลไปทางใต้ 265 กิโลเมตร แต่ผู้พิพากษาและทนายความย้ายมาปักหลักในศาลอันซาน ระหว่างนัดพบนักเรียนผู้รอดชีวิตที่ตกลงจะให้การทั้งสิ้น 17 คน เป็นเวลา 2 วัน
นอกจากความกังวล พวกเขายังอาจรู้สึกเสียขวัญ ศาลจึงอนุญาตให้นักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่ต้องเข้าห้องพิจารณาคดีใหญ่ และยังเสนอว่าพวกเขาสามารถให้การผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ขณะที่อยู่ในห้องข้างๆ กับพ่อแม่ผู้ปกครอง
ทั้งนี้ ชื่อของพวกเขาจะถูกเก็บเป็นความลับ และขณะที่ศาลรับฟังคำให้การในห้องพิจารณาคดี ก็จะมีแต่ผู้พิพากษา ทนายจำเลย และอัยการเท่านั้นที่จะได้เห็นหน้าค่าตาของนักเรียน
ในหมู่ลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมด 476 คนที่บนเรือ “เซวอล” เฟอร์รีระวางขับน้ำ 6,825 ตัน ที่พลิกคว่ำและอับปางบริเวณนอกชายฝั่งทางตอนใต้ เมื่อวันที่ 16 เมษายน มี 325 คนเป็นนักเรียนจากโรงเรียนมัธยมดาวอน ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางไปทัศนศึกษา
พบนักเรียนรอดชีวิตเพียง 75 คนเท่านั้น
โศกนาฏกรรมครั้งนี้ ซึ่งคร่าชีวิตคนหนุ่มสาวไปเป็นจำนวนมาก ได้สั่นคลอนสังคมเกาหลีใต้ด้วยความรู้สึกตกตะลึงและโศกสลดอย่างท่วมท้น
ภายหลังเกิดภัยพิบัติได้ไม่กี่วัน บรรดาสถานีโทรทัศน์พากันแพร่ภาพคลิปวีดีโอ จากโทรศัพท์มือถือของนักเรียนผู้ตา และเพื่อนร่วมห้อง ขณะกำลังหัวเราะและหยอกล้อกันว่า พวกเขารู้สึกเหมือนอยู่ในภาพยนต์เรื่อง “ไททานิค” ในช่วงที่เรือลำนี้เริ่มศูนย์เสียการทรงตัว
ขณะที่สถานการณ์เลวร้ายลง นักเรียนเหล่านี้ก็เริ่มตื่นตระหนก และมีผู้แนะนำผ่านเครื่องขยายเสียงบนเรือให้พวกเขาอยู่เฉยๆ
ลี จุนซอก กัปตันเรือเซวอล และสมาชิกลูกเรืออาวุโส 3 คนถูกกล่าวหาว่า “ประมาทโดยจงใจจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียหายถึงแก่ชีวิต” ซึ่งเป็นข้อหาที่อาจทำให้พวกเขาได้รับโทษประหารชีวิต
ส่วนลูกเรืออีก 11 คนถูกพิจารณาคดีด้วยข้อหาละเมิดกฎหมายพาณิชย์นาวีที่มีบทลงโทษเบากว่า
การตั้งข้อหาต่างๆ มากมายกับกัปตันและลูกเรือเฟอร์รี เกิดจากข้อเท็จจริงที่ว่า ลี และลูกเรือคนอื่นๆ ตัดสินใจทิ้งเรือลำนี้ ทั้งที่ยังมีผู้โดยสารหลายร้อยคนติดอยู่ภายในเรือที่กำลังสูญเสียการควบคุมรุนแรง ก่อนจะพลิกคว่ำในที่สุด
ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันล่าสุดพุ่งทะลุ 300 ราย
นอกจากนี้ ลูกเรือเหล่านี้ยังถูกตำหนิจากการสั่งให้ผู้โดยสารอยู่กับที่ ขณะที่เรือลำนี้เริ่มเอียงกะเท่เร่
อย่างไรก็ตาม ยังมีลูกเรือหยิบมือหนึ่งตัดสินใจไม่ทอดทิ้งเรือไปไหน และพยายามแนะนำผู้โดยสารให้สามารถเอาชีวิตรอด ในขณะที่ตัวพวกเขาต้องกลายเป็นผู้เสียชีวิตเสียเอง
การที่ ลี และลูกเรือถูกสาธารณชนรุมประณามจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ได้จุดประกายให้เกิดความกังวลกันว่า พวกเขาจะได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรมหรือไม่ ในเวลาที่กัปตันและลูกเรือตกเป็นเป้าเกลียดชังของสาธารณชนรุนแรง
เมื่อสองสัปดาห์ก่อน คลิปวีดีโอในโทรศัพท์มือคือของนักเรียนบนเรือเฟอร์รีที่อับปางถูกนำออกเผยแพร่อีกครั้งในศาลกวางจู กระตุ้นให้ญาติพี่น้องของเหยื่อเรือมรณะที่อยู่ในสภาพน้ำตานองหน้าเริ่มตะโกนด่าทอจำเลย และเรียกร้องให้ประหารชีวิตพวกเขา