เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - เกาหลีใต้ประกาศให้ลูกเรือ 3 คน ซึ่งสละชีวิตเพื่อช่วยชีวิตผู้อื่นในเรือเฟอร์รีที่พลิกคว่ำเมื่อเดือนเมษายน เป็น “ผู้พลีชีพ” (Martyrs) ซึ่งนับเป็นบทบาทที่น่ายกย่องของวีรบุรุษที่ยอมพลีชีพเพือส่วนรวม ในโศกนาฏกรรมซึ่งกำลังถูกบดบังด้วยเรื่องราวของกัปตันผู้ขี้ขลาด ปัญหาการคอร์รัปชันในสังคมเกาหลีใต้ และความไร้ประสิทธิภาพในการรับมือกับสถานการณ์ของรัฐบาล
ทั้งที่ลูกเรือซึ่งเป็นพนักงานพาร์ตไทม์ทั้งสามคน มีโอกาสหนีเอาตัวรอดจากเรือที่กำลังจะอับปางลำนี้ได้ แต่พวกเขาก็ยังยืนหยัดช่วยชีวิตเหล่าผู้โดยสารที่ติดอยู่ในเรือ โดย คิม คีวุง และจุง ฮยุนซอน 2 ใน 3 ของลูกเรือเป็นคู่หมั้นคู่หมายกัน
ลูกเรือคนที่ 3 ซึ่งมีอายุน้อยที่สุด คือ ปาร์ค จียอง วัย 21 ปี กลายเป็นวีรบุรุษของสาธารณชน ภายหลังมีการเปิดเผยว่า เธอยอมสละเสื้อชูชีพของตนเองให้แก่ผู้โดยสาร เนื่องจากปรารถนาให้ผู้อื่นอยู่รอดปลอดภัย
ภายหลังได้รับยกย่องเป็นผู้พลีชีพ ร่างของพวกเขาจะถูกนำไปฝังในสุสานประจำชาติ ขณะที่ครอบครัวของทั้งสามจะได้รับเงินชดเชย สวัสดิการในการรักษาพยาบาล และความช่วยเหลืออื่นๆ
วีรกรรมของลูกเรือทั้งสามคนเป็นสิ่งที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงจากพฤติกรรมของกัปตันและลูกเรือส่วนใหญ่ ที่อยู่ในหมู่ผู้ทิ้งเรือกลุ่มแรก ทั้งยังถูกประจานว่าปล่อยให้ผู้โดยสารเสียชีวิต
ทั้งนื้ ลูกเรือที่ยังรอดชีวิตอีก 15 คน ซึ่งรวมถึงตัวกัปตันถูกจับกุมโดยทั้งหมด
ยอดผู้เสียชีวิตที่มีรายงานยืนยันในวันนี้ (12) ยังคงอยู่ที่ 275 คน ขณะที่อีก 29 คนยังสูญหาย ในเวลาที่คลื่นลมกลายเป็นอุปสรรคต่อภารกิจกู้ร่างผู้เสียชีวิตที่ถูกเลื่อนออกไป 3 วันติด
เรือเฟอร์รี “เซวอล” ซึ่งมีระวางขับน้ำ 6,825 ตัน เกิดพลิกคว่ำและอับปางลงบริเวณนอกชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศเมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา
นับตั้งแต่ช่วงเช้าของวันเสาร์ (10) ทีมนักประดาน้ำยังไม่สามารถเข้าไปในเรือที่จมอยู่ เนื่องจากคลื่นลมแรงอาจทำให้ชีวิตของเจ้าหน้าที่ตกอยู่ในความเสี่ยง
ทีมนักประดาน้ำงมศพกำลังได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากเหล่าญาติพี่น้องผู้สูญเสีย ที่เรียกร้องให้เก็บกู้ศพทั้งหมดออกมาจากเรือเฟอร์รีให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ครอบครัวของผู้สูญหายได้คัดค้านไม่ให้เจ้าหน้าที่กู้เรือลำนี้ขึ้นมา หากยังไม่สามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาทั้งหมด
ทว่าการดำเนินภารกิจค้นหาท่ามกลางทัศนวิสัยเป็นศูนย์เช่นนี้กำลังทวีความอันตรายยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากฝาผนังในเรือเริ่มโก่งงอ และมีแนวโน้มที่จะถล่มลงมา
โค มยุงซุก โฆษกกองกำลังรักษาชายฝั่ง กล่าวในการแถลงสรุปข่าวรายวันว่า “เราถือว่าความปลอดภัยของนักประดาน้ำสำคัญอันดับหนึ่ง เมื่อพวกเขาต้องออกค้นหาในพื้นที่อันตราย”
เรือเฟอร์รี “เซวอล” ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 476 ชีวิต อับปางลงเมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา ภายหลังที่เสียสมดุลจนพลิกคว่ำ
ในหมู่ผู้ที่โดยสารมากับเรือลำนี้ มากถึง 325 คนเป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลาย ที่กำลังเดินทางไปทัศนศึกษาบนเกาะตากอากาศ “เจจู” ทางภาคใต้ของประเทศ
ผลการสืบสวนเบื้องต้นชี้ว่า เรือเฟอร์รีลำนี้บรรทุกน้ำหนักเกินขีดจำกัดที่เรือสามารถแล่นได้อย่างปลอดภัยเป็น 3 เท่า
กัปตันเรือ “เซวอล” ซึ่งละทิ้งหน้าที่ในวันที่เรือประสบอุบัติเหตุ บอกผู้สื่อข่าวว่า บริษัท “ชองแฮจิน มาริน” ซึ่งเป็นผู้บริหารเรือลำนี้ได้ “ละเลย” คำเตือนที่ว่า เรืออายุ 20 ปี ลำนี้มีปัญหาด้านความเสถียร ภายหลังที่ถูกปรับปรุงซ่อมแซมเมื่อปี 2012
เจ้าหน้าที่ 5 คนของชองแฮจิน ซึ่งรวมถึงประธานบริหารของบริษัท ถูกตำรวจจับกุมพร้อมตั้งข้อหามากมาย เป็นต้นว่า ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ละเลย และละเมิดกฎหมายความปลอดภัยในการเดินเรือ