ศาลอาญานัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก คดี “พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ” ฟ้อง “ธาริต เพ็งดิษฐ์” อดีตอธิบดีดีเอสไอ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ-โยกย้ายไม่เป็นธรรม 19 พ.ค.ปีหน้า
วันนี้ (7 ก.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 913 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพร้อมเพื่อตรวจพยานหลักฐาน คดี อ.3878/2555 ที่ พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ อดีตผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นโจทก์ฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ และนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รักษาการปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 30 มี.ค. 2555 - 8 ต.ค. 2555 ต่อเนื่องกัน ขณะนั้น นายธาริต เพ็งดิษฐ์ จำเลยที่ 1 ในฐานะอธิบดีดีเอสไอ และจำเลยที่ 2 ในฐานะรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้วยการทำหนังสือโยกย้ายโจทก์ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ดีเอสไอ ไปเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะคดีซึ่งมีระดับต่ำกว่าเดิม อันเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วย เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ เขตดุสิต กทม.
โดยวันนี้โจทก์แถลงว่า สามารถรวบรวมเอกสารหลักฐานได้ครบถ้วนแล้ว จึงขอส่งพยานเอกสารเพิ่มเติมอีก 21 ฉบับ และประสงค์จะขอสืบพยานปาก นายพิพัฒน์ เพ็ญพาค อีก 1 ปาก โดยสามารถสืบพยานได้เสร็จภายในกำหนด 3 นัด ขณะที่ทนายจำเลยแถลงส่งพยานเอกสารเพิ่มเติมอีก 8 ฉบับตามบัญชีระบุพยาน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับเอกสารดังกล่าวซึ่งจะขอยื่นส่งเอกสารให้ฝ่ายโจทก์ตรวจสอบภายใน 30 วัน ศาลสอบถามโจทก์แล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้สืบพยานโจทก์และจำเลยฝ่ายละ 3 นัด พร้อมกำชับให้คู่ความดำเนินการสืบพยานให้เสร็จตามกำหนดนัด ทั้งนี้ ศาลจะเพิ่มเติมวันกำหนดนัดให้ต่อเมื่อกรณีมีเหตุจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงได้เท่านั้น และนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกในวันที่ 19 พ.ค. 2558 เวลา 09.00 น.
ภายหลัง พ.อ.ปิยะวัฒก์กล่าวสั้นๆ ว่า คดีนี้ในฐานะโจทก์ ก็ค่อนข้างมีความมั่นใจ เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นประเด็นข้อกฎหมาย ซึ่งศาลได้นัดสืบพยานครั้งแรก วันที่ 19 พ.ค. 2558