“ธาริต-ชาญเชาวน์” ปฏิเสธขอสู้คดี สั่งโยกย้าย “พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ” อดีต ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ไม่เป็นธรรม พร้อมขอสืบพยานลับหลังเหตุติดภารกิจราชการ ศาลพิจารณาแล้วอนุญาต พร้อมนัดคู่ความอีกครั้ง 7 ก.ค.นี้
ที่ห้องพิจารณา 913 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (31 มี.ค.) ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานและสอบคำให้การจำเลย คดีหมายเลขดำ อ.3873/2555 ที่ พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ อดีตผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นโจทก์ฟ้อง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ และนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 30 มี.ค. - 8 ต.ค. 2555 ต่อเนื่องกัน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ จำเลยที่ 1 ในฐานะอธิบดีดีเอสไอ และจำเลยที่ 2 ในฐานะรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้วยการทำหนังสือโยกย้ายโจทก์ ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ดีเอสไอ ไปเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะคดี ซึ่งมีระดับต่ำกว่าเดิม อันเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จึงขอให้ศาลออกหมายเรียกจำเลยมาแก้ต่างคดี และพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสอง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วย เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ เขตดุสิต กทม.
โดยวันนี้ พ.อ.ปิยะวัฒก์ โจทก์พร้อมนายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม จำเลยที่ 1-2 เดินทางมาศาล
ศาลได้สอบถามจำเลยที่ 1-2 แล้ว แถลงให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดี และยื่นคำร้องขอสืบพยานลับหลังจำเลย เนื่องจากติดภารกิจราชการ ไม่สามารถมาศาลได้ตามนัด ศาลสอบถามทนายโจทก์แล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้พิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ จากนั้นทนายโจทก์ได้แถลงขอยื่นเอกสารหลักฐานคำสั่งที่จำเลยเซ็นโยกย้ายโจทก์และข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อศาล พร้อมแถลงขอนำพยานเข้าสืบจำนวน 5 ปาก ใช้เวลา 3 นัด ขณะที่ฝ่ายจำเลยแถลงขอเตรียมเอกสารหลักฐานเพื่อจะนำส่งศาลอีกครั้ง และแถลงขอนำพยานเข้าสืบจำนวน 9 ปาก ใช้เวลา 3 นัด ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้นัดพร้อมคู่ความ เพื่อกำหนดวันสืบพยานโจทก์อีกครั้งในวันที่ 7 ก.ค. 2557 เวลา 09.00 น.