วานนี้ (20 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า การปรับปรุงตึกนารีสโมสร ยังคงเดินหน้าต่อไป โดยมีคนงานของบริษัทรับเหมาที่ได้รับการว่าจ้าง จากกรมยุทธโยธาทหารบก มาดำเนินการปรับปรุงด้วยการรื้อโครงเหล็ก และแผ่นกระจกกั้นห้องทำงานเดิม ของคณะรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโครงเหล็กที่เป็นซุ้มประตูหน้าห้องโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งคนงานทำการรื้อถอนอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ตึกนี้ได้รับความเสียหาย และมีการใช้แผ่นพลาสติก ปิดคลุมผ้าม่านในห้องเพื่อป้องกันไม่ให้เปรอะเปื้อนฝุ่นละออง ที่เกิดจากการรื้อถอนดังกล่าว ทั้งนี้ การดำเนินการปรับปรุงเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีเหตุการณ์แสดงอาถรรพ์ใดๆ เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากการรื้อโครงกั้นห้องเสร็จสิ้น ก็จะมีการรื้อตู้เก็บของที่ติดตั้งในหห้องทำงานของคณะโฆษกฯ ออกไป เพื่อให้เป็นห้องโล่งกว้าง ก่อนจะเริ่มการทาสีใหม่ และจะมีการปูพรม เปลี่ยนผ้าม่าน จากนั้นจึงจะนำชุดรับรองแขก ที่เป็นชุดเดียวกับที่ใช้ในห้องรับรองต่างๆ บนตึกไทยคู่ฟ้า เช่น ห้องสีม่วง ห้องสีงาช้าง เป็นต้น โดยเป็นชุดเฟอร์นิเจอร์เดิม ที่ทำเนียบรัฐบาลมีไว้ใช้อยู่แล้ว มาตั้งในห้องที่ใช้เป็นที่รับรองแขก ภายในตึกนารีสโมสร
ขณะที่ห้องโถงสำหรับการแถลงข่าวนั้น จะมีการเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศแบบตั้งพื้น ที่ถูกใช้งานมาตั้งแต่ปี 2532 ทำเวทีและแท่นตั้งกล้องของสื่อมวลชนใหม่ เปลี่ยนผ้าม่านที่ฉากหลังบนเวที ปรับปรุงสีในห้อง ก่อนจะรื้อปูพรมใหม่ เป็นขั้นตอนสุดท้าย ทั้งนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารจากกรมยุทธโยธากองทัพบก พร้อมกับเจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้ามาติดตามการปรับปรุงดังกล่าว พร้อมกับสำรวจหลายจุดของตึกดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่กรมยุทธโยธากองทัพบก ยืนยันว่า ต้องดำเนินการปรับปรุงให้เสร็จภายใน 2 เดือน ตามกำหนด
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสถาปัตยกรรมภายในและนอกตึกดังกล่าวนั้น ทางทำเนียบรัฐบาล จะประสานงานกับกรมศิลปากร ดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตึกบัญชาการ 2 นั้น จากการสำรวจ บริเวณชั้น 1-3 พบว่า เจ้าหน้าที่จากสำนักโฆษก สังกัดสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เก็บข้าวของย้ายไปยังที่ทำงานชั่วคราวในตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือตึกแดง หมดแล้ว ขณะที่ชั้น 4 และ 5 ที่ส่วนใหญ่เป็นห้องทำงานเดิมของที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ยังไม่มีการรื้อย้ายสิ่งของออกไป อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีคนงานจากบริษัทรับเหมาก่อสร้าง หรือเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ของตึกนี้ แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หลังจากการรื้อโครงกั้นห้องเสร็จสิ้น ก็จะมีการรื้อตู้เก็บของที่ติดตั้งในหห้องทำงานของคณะโฆษกฯ ออกไป เพื่อให้เป็นห้องโล่งกว้าง ก่อนจะเริ่มการทาสีใหม่ และจะมีการปูพรม เปลี่ยนผ้าม่าน จากนั้นจึงจะนำชุดรับรองแขก ที่เป็นชุดเดียวกับที่ใช้ในห้องรับรองต่างๆ บนตึกไทยคู่ฟ้า เช่น ห้องสีม่วง ห้องสีงาช้าง เป็นต้น โดยเป็นชุดเฟอร์นิเจอร์เดิม ที่ทำเนียบรัฐบาลมีไว้ใช้อยู่แล้ว มาตั้งในห้องที่ใช้เป็นที่รับรองแขก ภายในตึกนารีสโมสร
ขณะที่ห้องโถงสำหรับการแถลงข่าวนั้น จะมีการเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศแบบตั้งพื้น ที่ถูกใช้งานมาตั้งแต่ปี 2532 ทำเวทีและแท่นตั้งกล้องของสื่อมวลชนใหม่ เปลี่ยนผ้าม่านที่ฉากหลังบนเวที ปรับปรุงสีในห้อง ก่อนจะรื้อปูพรมใหม่ เป็นขั้นตอนสุดท้าย ทั้งนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารจากกรมยุทธโยธากองทัพบก พร้อมกับเจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้ามาติดตามการปรับปรุงดังกล่าว พร้อมกับสำรวจหลายจุดของตึกดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่กรมยุทธโยธากองทัพบก ยืนยันว่า ต้องดำเนินการปรับปรุงให้เสร็จภายใน 2 เดือน ตามกำหนด
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสถาปัตยกรรมภายในและนอกตึกดังกล่าวนั้น ทางทำเนียบรัฐบาล จะประสานงานกับกรมศิลปากร ดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตึกบัญชาการ 2 นั้น จากการสำรวจ บริเวณชั้น 1-3 พบว่า เจ้าหน้าที่จากสำนักโฆษก สังกัดสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เก็บข้าวของย้ายไปยังที่ทำงานชั่วคราวในตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือตึกแดง หมดแล้ว ขณะที่ชั้น 4 และ 5 ที่ส่วนใหญ่เป็นห้องทำงานเดิมของที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ยังไม่มีการรื้อย้ายสิ่งของออกไป อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีคนงานจากบริษัทรับเหมาก่อสร้าง หรือเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ของตึกนี้ แต่อย่างใด