วันนี้ (15 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.30 น. กลุ่มสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลได้ขอเข้าพบ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ คสช. เพื่อสอบถามถึงกรณีการปรับปรุงอาคารสถานที่ และทัศนียภาพภายในทำเนียบรัฐบาล รวมไปถึงกระแสข่าวการรื้อห้องปฏิบัติการสื่อมวลชน 1 หรือรังนกกระจอก โดย พล.ต.อ.อดุลย์ได้เชิญกลุ่มผู้แทนสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังการชี้แจงภายในห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ก่อนเปิดเผยว่า ขณะนี้ให้ฝ่ายที่รับผิดชอบสำรวจสภาพของอาคารต่างๆในทำเนียบรัฐบาล ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะปรับตรงไหน อย่างไร เนื่องจากทำเนียบรัฐบาลไม่ได้มีการปรับปรุงมาตั้งแต่ พ.ศ. 2545 รวมถึงรังนกระจอกของสื่อมวลชน ก็ยังเป็นเพียงแนวคิด ซึ่งทางสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีงบประมาณในการดำเนินการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่อยู่แล้ว จะปรับทกจุดทั้งตึกไทยคู่ฟ้า ตึกสันติไมตรี ตึกบัญชาการ 1 และ 2 ตึกนารีสโมสร รวมไปถึงบ้านพิษณุโลก และบ้านมนังคศิลา โดยยืนยันว่าจะปรับปรุงให้ดีขึ้น ไม่ใช่แย่ลง
"หัวหน้า คสช.ได้บอกในที่ประชุมว่า รังนกกระจอกไม่มีการรื้อ เพียงแต่ปรับให้ดีขึ้น ทุกอย่างทำให้ดีขึ้น ทำให้เลวลงไม่มี และจะดูที่ความต้องการด้วย ส่วนเรื่องตัวเลขงบประมาณ 300 ล้าน ก็ไม่จริง ไม่ถึงขนาดนั้น" พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าว
พล.ต.อ.อดุลย์ เปิดเผยด้วยว่า เบื้องต้นให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งกรมโยธาธิการ กรมศิลปากร กรุงเทพมหานคร (กทม.) และกรมโยธาธิการทหารบก ร่วมกันสำรวจ และประมาณการพื้นที่ทั้งหมด ก่อนสรุปแผนและงบประมาณมานำเสนออีกครั้งโดยเร็วที่สุด ขอยืนยันว่าการดำเนินการทุกอย่างมีขั้นตอน โดยเรามีเป้าหมายให้แล้วเสร็จก่อนที่จะมีรัฐบาลใหม่
ส่วนสาเหตุที่ คสช.เข้ามาปรับภูมิทัศน์ทำเนียบรัฐบาล เพราะเห็นว่าเป็นสถานที่ทำงานของรัฐบาล ถือว่าเป็นหน้าตาของประเทศ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า จะไม่มีการใช้งบประมาณอย่างฟุ่มเฟือย เพราะใช้หน่วยงานราชการในการดำเนินการทั้งหมด
ทั้งนี้ในระหว่างหารือ ทางกลุ่มสื่อมวลชนได้พยายามขอความชัดเจนเรื่องการใช้พื้นที่ห้องปฏิบัติการสื่อมวลชน 1 หรือ รังนกกระจอก ซึ่งอยู่ข้างตึกนารีสโมสรตามเดิม ซึ่งพล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจ และนำเสนอแผนเข้ามาก่อนที่จะมีการหารือร่วมกัน แต่ยืนยันว่าไม่มีการทุบ หรือรื้ออย่างแน่นอน สำหรับสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น ตามแผนการเบื้องต้นระบุว่า ภายในตึกบัญชาการ มีห้องประชุมที่สามารถรองรับการประชุมได้ อาจเสนอให้ย้ายการประชุมครม.จากสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) มายังตึกบัญชาการแทน
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินการปรับภูมิทัศน์ภายในทำเนียบรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และหัวหน้าคสช.ได้เน้นย้ำชัดเจนว่า การปรับปรุงอะไรก็ตามในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลจะต้องประหยัด และเน้นความพอเพียงเป็นสิ่งสำคัญ ส่วนงบประมาณที่มีกระแสข่าวออกมาถึง 300 ล้านบาท รวมทั้งการย้ายรังนกกระจอก หรือที่ทำงานของผู้สื่อข่าวหลังเก่าออกนั้นยังไม่มีการพูดถึง พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่เห็น ซึ่งอาจเป็นเรื่องของสถาปนิก ที่มีการหารือกันในระดับเจ้าหน้าที่
"จะไม่มีการย้ายรังนกกระจอกและจะให้เป็นตำนานเล่นขานขานสืบต่อไป อยู่กันตรงนั้นยังไงก็ให้อยู่ต่อไป และกระแสข่าวที่ออกไปนั้นหัวหน้า คสช.ยังไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น แม้กระทั่งทั้งตัวเลขงบประมาณทั้งหลาย เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่พูดจาหารือกันไป แต่ยังไม่ขึ้นไปสู่ยังผู้บริหารระดับสูงแต่อย่างใด" ม.ล.ปนัดดา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ทหาร จากกรมยุทธโยธาทหารบก ได้ทยอยเข้ามาเริมปฏิบัติการปรับปรุงอาคารสถานที่ และทัศนียภาพ ภายในทำเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะที่นารีสโมสร ห้องปฏิบัติการสื่อมวลชน 1 หรือรังนกกระจอก และบริเวณตึกบัญชาการ 2 โดยเจ้าหน้าที่รายหนึ่งเปิดเผยว่า ทางกรมยุทธโยธาทหารได้รับมอบหมายให้เข้ามามีส่วนรับผิดชอบในการปรับปรุงพื้นที่ 3 อาคารดังกล่าว โดยในส่วนของศูนย์แถลงข่าวตึกนารีสโมสรนั้น จะดำเนินการปรับปรุงพื้นที่เฉพาะภายในตัวตึก เพื่อเป็นห้องรับรองแขกของนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษาฯ รวมไปถึงแขกต่างประเทศที่จะเดินทางมาเยือนและเข้าพบปะหารือ แต่จะไม่ดำเนินการเปลี่ยนแปลงตัวภายนอกตึกนารีสโมสร โดยมีกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรมดูแลอยู่
"ตึกนารีสโมสรไม่เหมาะที่จะเป็นออฟฟิส หรือห้องทำงานของข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ โดยจะย้ายศูนย์แถลงข่าวของทำเนียบรัฐบาลไปอยู่ที่ตึกบัญชาการ 2 แทนทั้งหมด โดยจะมีการปรับปรุงตึกบัญชาการ 2 ให้เป็นศูนย์แถลงข่าว มีให้องรับรองสื่อมวลชนอยู่ภายในตึกเดียวกัน สำหรับข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ จะให้ทยอยขนออกจากตึกนารีสโมสร ตั้งแต่วันนี้ ส่วนจะไปอยู่ที่ใดนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดหาสถานที่เพื่อให้เกิดความเหมาะสม” เจ้าหน้าที่ทหารจากกรมยุทธโยธา ระบุ
เจ้าหน้าที่คนเดิมเปิดเผยด้วยว่า ในส่วนรังนกกระจอกนั้น จะไม่มีรื้อหรือทุบทิ้ง เพียงแต่จะปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เป็นเรือนรับรอง เนื่องจากอยู่ติดกับตึกนารีสโมสร โดยจะย้ายผู้สื่อข่าวที่ประจำอยู่ที่รังนกกระจอก ไปอยู่รวมกันที่ห้องปฏิบัติการสื่อมวลชน 2 บริเวณประตู 1 แทน
**คาดงบฯปัดฝุ่นทำเนียบฯไม่ต่ำกว่า 200 ล.
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า สำหรับตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งเป็นที่ตั้งห้องทำงานนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการนายกรัฐมนตรีนั้น วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ทหารจากกรมโยธาธิการทหารบก ได้เข้าพื้นที่เพื่อสำรวจภายใน โดยได้กำหนดปรับเปลี่ยนในหลายส่วน ทั้งผ้าบุโซฟาและเก้าอี้ภายในห้องรับรองต่างๆ ได้แก่ ห้องสีงาช้าง ห้องเขียว และห้องม่วง เพื่อให้สีของที่นั่งเป็นไปในโทนเดียวกัน สำหรับห้องโดมทองนั้นรายงานข่าวแจ้งว่าไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังได้มีการทำความสะอาดขนานใหญ่ โดยให้นำโคมไฟทุกดวงภายในตึกลงมาทำความสะอาด พร้อมกับถอดผ้าม่าน และพรมปูพื้นเพื่อนำไปซักทำความสะอาดด้วย
ขณะที่ ห้องทำงานของนายกรัฐมนตรีนั้น เบื้องต้นได้มีคำสั่งให้ปรับเปลี่ยนในส่วนของเครื่องสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมด โดยให้นำโถปัสสาวะชายกลับมาติดตั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ถูกกถอดออกไปในสมัยที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยขณะนี้ทางฝ่ายทหารได้นำตัวอย่างเครื่องสุขภัณฑ์ให้ผู้บัญชาการทำการคัดเลือกแบบอยู่
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับงบประมาณในการปรับปรุงภูมิทัศน์ทำเนียบรัฐบาลนั้น ได้ประเมินเบื้องต้นไว้มากกว่า 200 ล้านบาท จากที่ทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ตั้งงบประมาณไว้ที่ 300 ล้านบาท ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557
"หัวหน้า คสช.ได้บอกในที่ประชุมว่า รังนกกระจอกไม่มีการรื้อ เพียงแต่ปรับให้ดีขึ้น ทุกอย่างทำให้ดีขึ้น ทำให้เลวลงไม่มี และจะดูที่ความต้องการด้วย ส่วนเรื่องตัวเลขงบประมาณ 300 ล้าน ก็ไม่จริง ไม่ถึงขนาดนั้น" พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าว
พล.ต.อ.อดุลย์ เปิดเผยด้วยว่า เบื้องต้นให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งกรมโยธาธิการ กรมศิลปากร กรุงเทพมหานคร (กทม.) และกรมโยธาธิการทหารบก ร่วมกันสำรวจ และประมาณการพื้นที่ทั้งหมด ก่อนสรุปแผนและงบประมาณมานำเสนออีกครั้งโดยเร็วที่สุด ขอยืนยันว่าการดำเนินการทุกอย่างมีขั้นตอน โดยเรามีเป้าหมายให้แล้วเสร็จก่อนที่จะมีรัฐบาลใหม่
ส่วนสาเหตุที่ คสช.เข้ามาปรับภูมิทัศน์ทำเนียบรัฐบาล เพราะเห็นว่าเป็นสถานที่ทำงานของรัฐบาล ถือว่าเป็นหน้าตาของประเทศ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า จะไม่มีการใช้งบประมาณอย่างฟุ่มเฟือย เพราะใช้หน่วยงานราชการในการดำเนินการทั้งหมด
ทั้งนี้ในระหว่างหารือ ทางกลุ่มสื่อมวลชนได้พยายามขอความชัดเจนเรื่องการใช้พื้นที่ห้องปฏิบัติการสื่อมวลชน 1 หรือ รังนกกระจอก ซึ่งอยู่ข้างตึกนารีสโมสรตามเดิม ซึ่งพล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจ และนำเสนอแผนเข้ามาก่อนที่จะมีการหารือร่วมกัน แต่ยืนยันว่าไม่มีการทุบ หรือรื้ออย่างแน่นอน สำหรับสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น ตามแผนการเบื้องต้นระบุว่า ภายในตึกบัญชาการ มีห้องประชุมที่สามารถรองรับการประชุมได้ อาจเสนอให้ย้ายการประชุมครม.จากสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) มายังตึกบัญชาการแทน
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินการปรับภูมิทัศน์ภายในทำเนียบรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และหัวหน้าคสช.ได้เน้นย้ำชัดเจนว่า การปรับปรุงอะไรก็ตามในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลจะต้องประหยัด และเน้นความพอเพียงเป็นสิ่งสำคัญ ส่วนงบประมาณที่มีกระแสข่าวออกมาถึง 300 ล้านบาท รวมทั้งการย้ายรังนกกระจอก หรือที่ทำงานของผู้สื่อข่าวหลังเก่าออกนั้นยังไม่มีการพูดถึง พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่เห็น ซึ่งอาจเป็นเรื่องของสถาปนิก ที่มีการหารือกันในระดับเจ้าหน้าที่
"จะไม่มีการย้ายรังนกกระจอกและจะให้เป็นตำนานเล่นขานขานสืบต่อไป อยู่กันตรงนั้นยังไงก็ให้อยู่ต่อไป และกระแสข่าวที่ออกไปนั้นหัวหน้า คสช.ยังไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น แม้กระทั่งทั้งตัวเลขงบประมาณทั้งหลาย เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่พูดจาหารือกันไป แต่ยังไม่ขึ้นไปสู่ยังผู้บริหารระดับสูงแต่อย่างใด" ม.ล.ปนัดดา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ทหาร จากกรมยุทธโยธาทหารบก ได้ทยอยเข้ามาเริมปฏิบัติการปรับปรุงอาคารสถานที่ และทัศนียภาพ ภายในทำเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะที่นารีสโมสร ห้องปฏิบัติการสื่อมวลชน 1 หรือรังนกกระจอก และบริเวณตึกบัญชาการ 2 โดยเจ้าหน้าที่รายหนึ่งเปิดเผยว่า ทางกรมยุทธโยธาทหารได้รับมอบหมายให้เข้ามามีส่วนรับผิดชอบในการปรับปรุงพื้นที่ 3 อาคารดังกล่าว โดยในส่วนของศูนย์แถลงข่าวตึกนารีสโมสรนั้น จะดำเนินการปรับปรุงพื้นที่เฉพาะภายในตัวตึก เพื่อเป็นห้องรับรองแขกของนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษาฯ รวมไปถึงแขกต่างประเทศที่จะเดินทางมาเยือนและเข้าพบปะหารือ แต่จะไม่ดำเนินการเปลี่ยนแปลงตัวภายนอกตึกนารีสโมสร โดยมีกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรมดูแลอยู่
"ตึกนารีสโมสรไม่เหมาะที่จะเป็นออฟฟิส หรือห้องทำงานของข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ โดยจะย้ายศูนย์แถลงข่าวของทำเนียบรัฐบาลไปอยู่ที่ตึกบัญชาการ 2 แทนทั้งหมด โดยจะมีการปรับปรุงตึกบัญชาการ 2 ให้เป็นศูนย์แถลงข่าว มีให้องรับรองสื่อมวลชนอยู่ภายในตึกเดียวกัน สำหรับข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ จะให้ทยอยขนออกจากตึกนารีสโมสร ตั้งแต่วันนี้ ส่วนจะไปอยู่ที่ใดนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดหาสถานที่เพื่อให้เกิดความเหมาะสม” เจ้าหน้าที่ทหารจากกรมยุทธโยธา ระบุ
เจ้าหน้าที่คนเดิมเปิดเผยด้วยว่า ในส่วนรังนกกระจอกนั้น จะไม่มีรื้อหรือทุบทิ้ง เพียงแต่จะปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เป็นเรือนรับรอง เนื่องจากอยู่ติดกับตึกนารีสโมสร โดยจะย้ายผู้สื่อข่าวที่ประจำอยู่ที่รังนกกระจอก ไปอยู่รวมกันที่ห้องปฏิบัติการสื่อมวลชน 2 บริเวณประตู 1 แทน
**คาดงบฯปัดฝุ่นทำเนียบฯไม่ต่ำกว่า 200 ล.
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า สำหรับตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งเป็นที่ตั้งห้องทำงานนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการนายกรัฐมนตรีนั้น วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ทหารจากกรมโยธาธิการทหารบก ได้เข้าพื้นที่เพื่อสำรวจภายใน โดยได้กำหนดปรับเปลี่ยนในหลายส่วน ทั้งผ้าบุโซฟาและเก้าอี้ภายในห้องรับรองต่างๆ ได้แก่ ห้องสีงาช้าง ห้องเขียว และห้องม่วง เพื่อให้สีของที่นั่งเป็นไปในโทนเดียวกัน สำหรับห้องโดมทองนั้นรายงานข่าวแจ้งว่าไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังได้มีการทำความสะอาดขนานใหญ่ โดยให้นำโคมไฟทุกดวงภายในตึกลงมาทำความสะอาด พร้อมกับถอดผ้าม่าน และพรมปูพื้นเพื่อนำไปซักทำความสะอาดด้วย
ขณะที่ ห้องทำงานของนายกรัฐมนตรีนั้น เบื้องต้นได้มีคำสั่งให้ปรับเปลี่ยนในส่วนของเครื่องสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมด โดยให้นำโถปัสสาวะชายกลับมาติดตั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ถูกกถอดออกไปในสมัยที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยขณะนี้ทางฝ่ายทหารได้นำตัวอย่างเครื่องสุขภัณฑ์ให้ผู้บัญชาการทำการคัดเลือกแบบอยู่
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับงบประมาณในการปรับปรุงภูมิทัศน์ทำเนียบรัฐบาลนั้น ได้ประเมินเบื้องต้นไว้มากกว่า 200 ล้านบาท จากที่ทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ตั้งงบประมาณไว้ที่ 300 ล้านบาท ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557