เอเอฟพี - ทารกเพศหญิงที่คลอดออกมาเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (27 ก.ค.) ได้กลายเป็นประชากรคนที่ 100 ล้านของฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการ นับเป็นตัวเลขที่สร้างความท้าทายให้กับประเทศที่ยากจนแห่งนี้ ในการรับมือกับปัญหาจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เจนนาลิน เซนติโน เธอคือหนึ่งในทารกแรกเกิดกว่า 100 คน ที่คลอดในโรงพยาบาลของรัฐหลายแห่งทั่วฟิลิปปินส์ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ที่ได้รับเครื่องหมายแต่งตั้งให้เป็นประชากรคนที่ 100 ล้าน
“นี่เป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย เป็นโอกาสในการสร้างความได้เปรียบและเป็นความท้าทายในเรื่องที่พวกเรารู้กันอยู่แก่ใจ” ฮวน อันโตนิโอ เปเรซ ผู้อำนวยการบริหาร สำนักงานคณะกรรมการประชากร บอกกับเอเอฟพี
“แม้ว่าจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น จะหมายถึงการมีแรงงานมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็เท่ากับว่ามีภาระที่ต้องดูแลมากขึ้นเช่นกัน สำหรับประเทศที่ประชากรประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ยังคงต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างยากจน” เขากล่าว
เขายังระบุอีกว่า ฟิลิปปินส์จะต้องหาทางช่วยเหลือบรรดาครอบครัวที่ยากจนเหล่านี้ ในขณะเดียวกันก็ต้องพยายามลดจำนวนตัวเลขเฉลี่ยการมีบุตรของบรรดาหญิงสาววัยเจริญพันธุ์ จากเดิมที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3 คน ให้เหลือแค่ 2 คน
เปเรซ เปิดเผยว่า นอกจากเฉลิมฉลองการเกิดของบรรดาทารก ด้วยเค้กและของขวัญที่เป็นเสื้อผ้ากับผ้าอ้อม ทางรัฐบาลก็จะคอยตรวจเช็กเด็กๆ กว่า 100 คนเหล่านี้ ไปอีกหลายปี เพื่อดูว่าพวกเขาได้รับบริการด้านสุขภาพตามที่ต้องการหรือไม่
ทางด้านพ่อของเจนนาลิน “คลีเมนเต เซนติโน” คนขับรถตู้วัย 45 ปี ก็บอกว่า เขารู้สึกดีใจที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุน แต่เขาเชื่อมั่นว่า ตัวเขาสามารถดูแลลูกเมียได้อย่างแน่นอน
เขาบอกกับเอเอฟพีว่า เขากับ “ไดลิน คาบิกายัน” สาววัย 27 ผู้เป็นแม่เด็ก ยังไม่ทันได้แต่งงานกัน เธอก็ตั้งท้องเสียก่อน แต่พวกเขามีแผนที่จะแต่งงานกันอย่างแน่นอน
“ผมหาเงินได้แค่พอมีพอกิน แต่อย่างน้อยงานผมก็ทำเงินได้สม่ำเสมอ จากนี้ไปเราคงต้องหาทางที่จะทำให้มันลงตัว” เขากล่าว
ความพยายามที่จะควบคุมจำนวนประชากรของฟิลิปปินส์ ถูกขัดขวางโดยอิทธิพลของคริสตจักรคาทอลิกมานานแล้ว ศาสนาที่มีประชากรชาวฟิลิปปินส์กว่า 80 เปอร์เซ็นต์เคารพนับถือ ไม่ยอมรับการคุมกำเนิดทุกรูปแบบ
จนกระทั่งในเดือนเมษายนที่ผ่านมา รัฐบาลฟิลิปปินส์จึงสามารถมีชัยเหนือการต่อต้านที่ยาวนานนับทศวรรษของคริสตจักร ด้วยการออกกฎหมายด้านสุขภาพการเจริญพันธุ์ เพื่อให้บริการคุมกำเนิดแก่ผู้ที่ยากจน
เปเรซ บอกว่า ด้วยการบังคับใช้ของกฎหมายฉบับนี้ จะทำให้ผู้หญิงประมาณ 2 - 3 ล้านคน ที่ไม่เคยเข้าถึงการวางแผนครอบครัวมาก่อน จะได้รับโอกาสนั้นแล้ว
อีกด้านหนึ่ง “คุณพ่อ เมลวิน คาสโตร” ประธานคณะกรรมการว่าด้วยครอบครัวและชีวิตของบิช็อปคาทอลิกฟิลิปปินส์ ได้ยกย่องการมีประชากรเพิ่มขึ้นว่า จะทำให้มีแรงงานอายุน้อยมากขึ้น มาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติ
ขณะที่ เฮอร์มินิโอ โคโลมา โฆษกของประธานาธิบดี เบนิโญ อาคิโน ก็ออกมาระบุว่า การกำเนิดของประชากรคนที่ 100 ล้าน แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ “การลงทุนด้านประชากรอย่างเหมาะสม” ทั้งนี้ รัฐบาลได้เตรียมการสำหรับเรื่องดังกล่าว ด้วยการใช้เม็ดเงินมากขึ้นสำหรับการ “พัฒนามนุษย์” โดยเฉพาะในเรื่องของการศึกษา
ทางด้าน เคลาส์ เบ็ค ตัวแทนกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ ในฟิลิปปินส์ ก็เห็นด้วยที่ทางฟิลิปปินส์ควรจะหันมาเน้นเรื่องการวางแผนครอบครัว จากคำแถลงที่ออกมาเนื่องในเหตุการณ์สำคัญครั้งนี้
“หลายรัฐบาลที่จริงจังกับการขจัดปัญหาความยากจน ควรให้ความสำคัญกับเรื่องของการให้บริการ การสนับสนุนด้านวัสดุอุปกรณ์และให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่ผู้หญิง ผู้ชาย รวมถึงบรรดาวัยรุ่น เพื่อที่พวกเขาจะได้ใช้สิทธิเกี่ยวกับการเจริญพันธุ์ของพวกเขา” เขากล่าว
