เอเอฟพี - ผู้ลี้ภัยหญิงนับสิบคนในศูนย์กักกันบนเกาะคริสต์มาสพยายาม “ฆ่าตัวตาย” เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลออสเตรเลียยอมให้ลูกๆ ของพวกเธอตั้งถิ่นฐานในดินแดนจิงโจ้ ขณะที่นายกรัฐมนตรี โทนี แอบบ็อตต์ ประกาศกร้าววานนี้ (8 ก.ค.) ว่าจะไม่ยอมตกเป็นเหยื่อการ “แบล็กเมล์” ด้วยประเด็นศีลธรรม
หนังสือพิมพ์ซิดนีย์มอร์นิงเฮรัลด์ รายงานว่า ผู้ลี้ภัยหญิงกลุ่มนี้พยายามฆ่าตัวตาย หลังจากได้รับแจ้งในสัปดาห์นี้ว่าพวกเธอจะถูกส่งตัวจากสถานกักกันบนเกาะคริสต์มาสไปยังปาปัวนิวกินี หรือนาอูรูแทน
ผู้ลี้ภัยที่ล่องเรือมายังออสเตรเลียหลังจากวันที่ 19 กรกฎาคม ปี 2013 ไม่ได้รับอนุญาตให้ตั้งถิ่นฐาน ไม่ว่าจะมีหนังสือรับรองสถานะผู้ลี้ภัยอย่างถูกต้องหรือไม่ก็ตาม โดยทางการจิงโจ้จะส่งตัวคนเหล่านี้ไปยังค่ายกักกันผู้อพยพ หรือไม่ก็ส่งไปตั้งบ้านเรือนอยู่ตามหมู่เกาะห่างไกลในมหาสมุทรแปซิฟิก
รายงานชิ้นนี้อ้างแหล่งข่าว 3 ราย รวมถึง เจค็อบ วาร์กีซ ซึ่งเป็นทนายตัวแทนทารกผู้ลี้ภัย 72 คน
เหตุการณ์นี้ถูกเปิดโปงในขณะที่รัฐบาลแอบบ็อตต์กำลังถูกนักสิทธิมนุษยชนรุมประณามนโยบายผลักดันผู้ลี้ภัยกลับประเทศ ขณะที่ศาลสูงออสซีก็อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะทำอย่างไรกับชาวศรีลังกา 153 คนที่ยังถูกตรวจสอบอยู่บนเรือกลางทะเล
ทนายชี้ว่า การจำแนกผู้ลี้ภัยกลางทะเลและส่งตัวกลับไปยังศรีลังกาทันทีอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย
ก่อนหน้านี้ ออสเตรเลียก็ได้ผลักดันชาวศรีลังกา 41 คนกลับประเทศขณะถูกพบกลางทะเล และต่อมาผู้ลี้ภัยวัยผู้ใหญ่ก็ถูกศาลในศรีลังกาตั้งข้อหาพยายามหลบหนีออกนอกประเทศอย่างผิดกฎหมาย
แอบบ็อตต์ชี้ว่า ข่าวสตรีผู้ลี้ภัยพยายามฆ่าตัวตายบนเกาะคริสต์มาสเป็นเรื่องที่ “น่าสะเทือนใจ” แต่รัฐบาลจะไม่ยอมตกเป็นตัวประกันของคนกลุ่มนี้
“รัฐบาลชุดนี้ไม่ใช่รัฐบาลที่จะปล่อยให้นโยบายถูกกำหนดโดยกลุ่มคนที่คิดจะใช้เรื่องศีลธรรมมาบีบคั้นเรา ผมจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น” ผู้นำออสเตรเลียให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ช่อง 9
“ผู้ลี้ภัยทุกคนที่ถูกส่งไปนาอูรูต่างได้รับเครื่องนุ่งห่ม อาหาร ที่พัก และเหนือสิ่งอื่นใดคือความปลอดภัย เราไม่ได้ส่งพวกเขาไปลงโทษที่นาอูรู”
“ผมไม่คิดว่าคนเหล่านี้ควรจะมาพูดกับเราว่า ‘ถ้าคุณไม่ให้ฉันเป็นผู้พำนักถาวรล่ะก็ ฉันจะทำร้ายตัวเองให้ดู’ และผมก็ไม่เชื่อว่าพลเมืองออสเตรเลียจะต้องการเห็นรัฐบาลอ่อนข้อให้กับคำขู่แบล็กเมล์ด้วยเรื่องศีลธรรมเช่นนี้”
กอร์ดอน ทอมป์สัน ประธานสภาบริหารเกาะคริสต์มาส ชี้ว่า ผู้หญิงเหล่านี้มีความเชื่อว่าหากพวกเธอตาย ลูกที่เป็นกำพร้าจะมีโอกาสได้รับอนุญาตตั้งถิ่นฐานในออสเตรเลีย
“พวกเธอพูดกันว่า ลูกๆ จะมีโอกาสที่ดีกว่าหากแม่ตาย... มันเป็นการสรุปเอาเองที่น่าตกใจพอสมควร แต่นี่คือความรู้สึกของผู้คนที่กำลังสิ้นหวังในเวลานี้”
รายงานระบุว่า ผู้ลี้ภัยหญิงซึ่งยังไม่ทราบสัญชาติพยายามฆ่าตัวตายโดยการแขวนคอ หรือใช้กระจกบาดตามร่างกาย