เอเอฟพี - มีผู้เสียชีวิตหนึ่งคน และได้รับบาดเจ็บ 77 คนจากเหตุจลาจลที่เกิดขึ้นเป็นคืนที่ 2 ในศูนย์กักกันผู้อพยพออสเตรเลีย บนบนเกาะมานัสของปาปัวนิวกินี ทางการระบุวันนี้ (18 ก.พ.)
ผู้แสวงหาที่พักพิง 35 คนได้หลบหนีออกจากสถานกักกันแห่งเดียวกัน เมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ (16) โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน ในเวลาที่ชะตากรรมของบรรดาผู้อพยพ ซึ่งถูกควบคุมโดยนโยบายอันแข็งกร้าวของรัฐบาลออสเตรเลียกำลังทวีความตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ
สกอตต์ มอริสัน รัฐมนตรีกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองออสเตรเลียเปิดเผยว่า นับตั้งแต่ไม่กี่สัปดาห์ก่อน ผู้อพยพจำนวนมากได้จัดการประท้วงอย่างสงบหลายระลอก ทว่าเหตุรุนแรงได้ปะทุขึ้นในช่วงสองคืนที่ผ่านมา
“การตายของผู้อพยพคนหนึ่งเป็นข่าวที่น่าเศร้าสลดยิ่ง” เขากล่าว พร้อมทั้งเสริมว่า ชายคนดังกล่าวเสียชีวิตลงด้วยอาการบาดเจ็บที่ศีรษะระหว่างกำลังถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
“สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นโศกนาฏกรรม แต่ก็เป็นสถานการณ์ซึ่งอันตรายมาก ที่คนตัดสินใจประท้วงด้วยวิธีการรุนแรง และยอมเสี่ยงตายเพื่อหนีจากศูนย์กักกัน”
ในบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 77 คนพบว่ามี 13 คนมีอาการสาหัส ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงผู้อพยพที่กะโหลกศีรษะร้าว และอีกคนซึ่งถูกยิงเข้าที่สะโพก โดยพวกเขาจะถูกส่งตัวไปเข้ารับการรักษาที่ออสเตรเลีย
ทั้งนี้ เกาะมานัสเป็นหนึ่งในค่ายกักกันอันห่างไกลในมหาสมุทรแปซิฟิก สถานที่ซึ่งออสเตรเลียใช้นโยบายลงโทษผู้อพยพเข้าประเทศผิดกฎหมาย ด้วยการกักกันในพื้นที่นอกชายฝั่งออสเตรเลีย
ภายใต้นโยบายซึ่งมุ่งขัดขวางพวกลักลอบหนีเข้าประเทศฉบับดังกล่าว ผู้แสวงหาที่พักพิงคนใดก็ตามที่เดินทางมาทางเรือหรือถูกสกัดจับได้ในทะเลจะถูกส่งตัวไปที่เกาะมานัส หรือนาอูรู เพื่อตั้งถิ่นฐานถาวรนอกออสเตรเลีย
มอร์ริสันกล่าวว่า แม้ว่าจะเกิดเหตุไม่สงบขึ้น แต่ค่ายกักกันผู้อพยพก็จะยังมีต่อไป โดยผู้อพยพส่วนใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เมื่อคืนวานนี้ (17) เกิดจากการที่พวกเขาพยายามทุบทำลายกำแพงค่ายทั้งชั้นในและชั้นนอก และเขายังระบุด้วยว่ายังไม่พบผู้อพยพบางส่วนที่สูญหายไป
ทางฝ่าย เอียน รินตูล จากองค์กรเคลื่อนไหวเพื่อคุ้มครองผู้ลี้ภัย Refugee Action Coalition ชี้ว่า ชาวบ้านบนเกาะที่คัดค้านการตั้งค่ายได้ก่อให้เกิดบรรยากาศแห่งความตึงเครียดตลอดทั้งวัน จนในที่สุดก็เริ่มก่อเหตุโจมตีเมื่อกระแสไฟฟ้าในศูนย์กักกันถูกตัด
ทั้งนี้ เหตุจลาจลคราวนี้เกิดขึ้นหลังการพบกันอย่างตึงเครียด ระหว่างผู้ถูกคุมขังกับบรรดาเจ้าหน้าที่จากหน่วยงาน “การตรวจคนเข้าเมืองและความเป็นพลเมืองของปาปัวนิวกินี” (ไอเอสซีเอ) เพื่อพูดคุยในเรื่องชะตากรรมของพวกเขาหากมีความประสงค์จะขอลี้ภัยจริง
เจ้าหน้าที่บอกพวกเขาว่า เขาจะถูกย้ายไปตั้งรกรากที่ปาปัวนิวกินี และ “จะไม่มีการจัดหาประเทศที่สามให้”
ทางด้าน ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ได้ออกมากล่าวประณามค่ายมานัส และค่ายนาอูรูว่าเป็นสถานกักกันอัน “โหดเหี้ยม ที่ส่งผลกระทบต่อชาย หญิง และเด็กที่ถูกคุมขังอย่างลึกซึ้ง”