“ผู้อพยพตูนิเซียและโมร็อกโก” ประท้วง “เย็บปาก” เรียกร้องให้ปล่อยตัวจากสถานกักกันใน “อิตาลี”

เอเจนซีส์ -ในวันอาทิตย์ (22) มีกลุ่มผู้อพยพชาวตูนิเซีย 4 คน และผู้อพยพชาวโมร็อกโกอีก 4 คนทำการประท้วงอย่างรุนแรงด้วยการใช้เข็มและด้าย “เย็บริมฝีปาก” ของพวกเขาเพื่อประท้วงการที่ต้องถูกจองจำในสถานกักกันผู้อพยพนอกกรุงโรมนานกว่า 1 ปี 6 เดือนและจะต้องถูกเนรเทศออกจากอิตาลีในอนาคต อ้างจากสื่ออิตาลี Corriere Della และสื่ออาร์ทีของรัสเซีย

โดยผู้ประท้วงชาวตูนิเซียและโมร็อกโกที่อยู่ในวัย 20-30 ปี จำนวนอย่างละ 4 คนเท่ากันได้ใช้เข็มที่ทำมาจากไฟแช็กจุดบุหรี่และเส้นด้ายจากผ้าปูที่นอนทำการเย็บริมฝีปากเข้าด้วยกัน ซึ่งพวกเขาถูกพบโดยเจ้าหน้าที่การแพทย์ของศูนย์กักกันแห่งนี้หลังจากที่ลงมือเย็บปากตัวเองได้ไม่นาน และผู้ประท้วงทั้งหมดได้รับการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงทีในภายหลัง

ในขณะนี้กลุ่มผู้ประท้วงได้ถูกกักที่ศูนย์ Center for Identification and Expulsion หรือ CIE ซึ่งเป็นศูนย์กักกันผู้อพยพที่มีความเข้มงวดทางด้านความปลอดภัยสูงตั้งอยู่ที่ Ponte Galeria

“การประท้วงของพวกเขาทำให้เราต้องตั้งคำถามถึงศูนย์กักกันที่ขาดมนุษยธรรม และกฎหมายผู้อพยพ Bossi-Fani ของอิตาลีที่กำหนดว่า ผู้อพยพหนีภัยสงคราม ความรุนแรง และความยากจน เข้ามาในอิตาลีนั้นเป็นผู้กระทำผิดกฎหมาย” นายกเทศมนตรีกรุงโรม อิกนาซิโอ มาริโน เผย “เราไม่สามารถที่จะทำให้เคยชินกับโศกนาฎกรรมเหล่านี้ได้ เราต้องลุกขึ้นสู้เพื่อความแตกต่าง”

ภายใต้กฎหมาย Bossi-Fani ที่ได้รับการแก้ไขหลายครั้ง ได้เปิดโอกาสให้ทางการอิตาลีสามารถกักตัวผู้อพยพได้นานถึง 1 ปี 6 เดือน ก่อนที่จะส่งพวกเขากลับสู่ประเทศบ้านเกิด ซึ่งศูนย์ใน Ponte Galeriaนั้นเป็น 1 แห่งจากทั้งหมด 11 แห่งที่ตั้งอยู่ทั่วอิตาลี โดยทางศูนย์กักกันประจำ Ponte Galeriaได้กักขังผู้อพยพผิดกฏหมายจำนวนราว 100 คน

ด้านสื่อฮัฟติงตันโพสต์ประจำอิตาลีได้สัมภาษณ์ อาเหม็ด ผู้อพยพวัย 25 ปี ที่ถูกกักอยู่ในศูนย์กักกันในเมืองPonte Galeriaมานานกว่า 3 เดือน ซึ่งเขาได้ให้ความเห็นว่า ศูนย์กักกันผู้อพยพแห่งนี้นั้นเลวร้ายกว่าคุกที่ไหนๆ ในโลกนี้

“ทางเจ้าหน้าที่ของศูนย์ได้ให้กระดาษชำระที่พวกเขาคาดว่า ทางผู้อพยพจะสามารถใช้ได้นานราว 3-4 วัน และพวกเราได้นอนบนแผ่นกระดาษ นอกจากนี้ ผู้อพยพได้รับแจกแชมพูทุก 3 เดือน และระบบฮีทเตอร์ทำความร้อนนั้นแย่มาก มันหยุดทำงานบ่อยมากในแต่ละวัน” อาเหม็ดกล่าว

นอกจากนี้เขายังทำนายว่า จะต้องมีผู้ประท้วงเย็บปากมากกว่านี้ในอนาคต “เพราะผู้อพยพที่อาศัยอยู่ในศูนย์ได้รับการปฎิบัติจากเจ้าหน้าที่อิตาลีเหมือนสัตว์”

ทางด้าน ส.ส.พรรค Left Ecology and Freedom ซึ่งเป็นฝ่ายค้านในสภากล่าวว่า “กลุ่มผู้ประท้วงใช้วิธีการรุนแรงเพื่อแสดงให้เห็นถึงการสิ้นหวังของพวกเขา ศูนย์กักกันผู้อพยพเหล่านี้ต้องถูกปิดให้หมด”

ตั้งแต่ต้นปี 2013 จนถึงปลายเดือนตุลาคมล่าสุด พบว่ามีผู้อพยพจำนวนมากกว่า 33,000 คน ที่ส่วนใหญ่มาจากแอฟริกา หรือซีเรีย เดินทางเข้ามายังอิตาลี ซึ่งจำนวนผู้อพยพเข้าเมืองนี้มีจำนวนที่มากเกือบ 3 เท่าในปี 2012