เอเอฟพี - ศาลอินโดนีเซียวันนี้ (8 ก.ค.) ตัดสินจำคุกกัปตันเรือคนหนึ่งเป็นเวลา 3 ปี ภายหลังที่เขาคลาดสายตาจากหญิงชาวญี่ปุ่น 7 คน ซึ่งกำลังดำน้ำสำรวจโลกใต้ทะเล จนเป็นเหตุให้สมาชิก 2 คนที่พลัดหลงจากกลุ่มจบชีวิตลง
อกุสตินุส บราตา กูซูมา คลาดสายตาจากหญิงชาวญี่ปุ่นกลุ่มนี้ ในบริเวณใกล้เกาะตากอากาศบาหลี เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะพายุเข้าฉับพลัน
กูซูมาร่ำไห้กลางศาล ขณะที่ผู้พิพากษาอ่านคำตัดสิน โดยระบุว่าเขามีความผิดจริงฐานประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บ
เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวนอกศาลแขวงเดนปาซาร์ ในจังหวัดบาหลี หลังจากศาลมีคำคำตัดสินว่า “ผมกราบขอโทษครอบครัวของเหยื่อ ผมไม่ได้ตั้งใจให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเลย”
มีผู้พบเห็นนักดำน้ำหญิง 5 คน ในบริเวณที่อยู่ห่างจากจุดเริ่มต้นออกดำน้ำไปราว 20 กิโลเมตร ภายหลังที่พวกเธอหายตัวไปได้ 3 วัน โดยพวกเธอต้องยึดเกาะโขดหินและปะการังเอาไว้จนกระทั่งได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัย
ผู้พิพากษานูร์ซยาม ซึ่งรับหน้าที่ตัดสินคดีนี้ชี้ว่า ศาลพบว่า กูซูมาปล่อยให้เวลาล่วงเลย “นานเกินไปก่อนที่เขาจะขอความช่วยเหลือและแจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”
นูร์ซยัม กล่าวว่า เขาบึ่งเรือออกไปเติมน้ำมัน ภายหลังหานักดำน้ำไม่พบ และกลับมาหลังจากเวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง
เขากล่าวว่า “ตอนที่นักดำน้ำหญิงโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำจึงไม่พบเรือลำที่พาพวกเธอมา”
“นักดำน้ำหญิงทั้ง 7 คนถูกแรงพายุพัดกระหน่ำจนพลัดออกจากกัน”
ผู้พิพากษายังระบุด้วยว่า การกระทำของจำเลยได้สร้างความด่างพร้อยให้แก่ชื่อเสียงของเกาะบาหลีที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม
กูซูมาทำงานให้กับ “เยลโลว์ สกูบา” บริษัทนำเที่ยวดำน้ำบนเกาะบาหลี ซึ่งเป็นผู้วางแผนการเดินทางให้หญิงชาวญี่ปุ่นกลุ่มนี้ บริเวณน่านน้ำรอบหมู่เกาะนูซา เปนิดา และ นูซา เลิมบงงัน ซึ่งอยู่ใกล้เคียง
ซาโอริ ฟุรุกาวะ ครูสอนดำน้ำชาวญี่ปุ่นของบริษัท เยลโลว์ สกูบา อยู่ในหมู่ผู้ที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยชีวิตไว้ได้ ขณะที่ โชโกะ ทาคาฮาชิ ซึ่งดำเนินกิจการบริษัทนำเที่ยวดำน้ำร่วมกับสามี คือ 1 ใน 2 นักดำน้ำที่เสียชีวิต
ก่อนหน้านี้ ฟุรุกาวะ ได้ให้การต่อศาลต่อ โดยบรรยายความรู้สึกของเธอขณะยิงพลุเพื่อส่งสัญญาณให้กัปตันทราบ ทว่าไม่ประสบความสำเร็จ
เธอกล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังเกิดเหตุว่า สภาพอากาศเลวร้ายลงอย่างฉับพลัน และคลื่นทวีความรุนแรง “ราวกับ (พวกเธออยู่ใน) เครื่องซักผ้า” พร้อมทั้งเล่าเหตุการณ์ขณะถูกกระแสน้ำรุนแรงพัดพาออกจากกลุ่มนักดำน้ำคนอื่นๆ