เอเอฟพี – นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น ประกาศเพิกถอนมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือบางส่วน หลังการเจรจาปัญหาพลเมืองปลาดิบที่ถูกลักพาตัวไปในช่วงสงครามเย็นมีความคืบหน้าไปทางที่ดี ขณะที่เกาหลีใต้รีบออกปากเตือนโตเกียวอย่าทำลายความพยายามนานาชาติในการปลดอาวุธนิวเคลียร์โสมแดง
อาเบะ แถลงต่อสื่อมวลชนวันนี้ (3) ว่า รัฐบาลโตเกียวเล็งเห็นถึงความจริงใจของเกาหลีเหนือที่จะคลี่คลายข้อพิพาทที่มีมายาวนานหลายสิบปี และสืบสวนกรณีชาวญี่ปุ่นที่ยังหายตัวไป ดังนั้น จึงเป็นการสมควรที่ญี่ปุ่นจะตอบแทนเกาหลีเหนือบ้าง
“รัฐบาลได้ข้อสรุปว่า เราจะจัดทำแผนเพื่อตัดสินใจวาระแห่งชาติต่างๆ และด้วยหลักการกระทำต่อการกระทำ (action to action) เราจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรบางส่วนที่เคยใช้มาในอดีต” ผู้นำญี่ปุ่นแถลง
ท่าทีรอมชอมของญี่ปุ่นมีขึ้น หลังจากที่ผู้แทนโตเกียวและเปียงยางได้ร่วมหารือกันที่กรุงปักกิ่งเกี่ยวกับชะตากรรมของพลเมืองญี่ปุ่นหลายสิบ หรืออาจจะหลายร้อยคน ที่ถูกเกาหลีเหนือลักพาตัวไปฝึกภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นให้กับสายลับโสมแดง ในช่วงทศวรรษ 1970-1980
มาตรการคว่ำบาตรที่ว่านี้เป็นคนละส่วนกับบทลงโทษที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกำหนดขึ้น เพื่อตอบโต้การทดลองนิวเคลียร์ของรัฐโสมแดง
“จุดยืนของเราในการแก้ไขปัญหาพลเมืองที่ถูกลักพาตัว ตลอดจนเรื่องนิวเคลียร์และขีปนาวุธ ยังคงเดิมทุกประการ” โยชิฮิเดะ สุกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน
“เราจะยังประสานความร่วมมือกับสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ในประเด็นนี้ต่อไป”
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น ระบุว่า รัฐบาลเตรียมที่จะยกเลิกคำสั่งห้ามพลเมืองโสมแดงเดินทางเข้าประเทศ ยกเลิกข้อบังคับให้ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ศุลกากรในกรณีนำเงินสดสกุลเยนออกนอกประเทศเกินกว่า 100,000 เยน และยกเลิกข้อห้ามมิให้เรือสัญชาติเกาหลีเหนือเข้าจอดเทียบท่าเรือของญี่ปุ่น
มาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้จะถูกยกเลิกไปในวันศุกร์ (4) ซึ่งตรงกับกำหนดการที่เปียงยางจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีพลเมืองญี่ปุ่นสูญหาย
“เกาหลีเหนือแสดงเจตนารมณ์ที่จะแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และปฏิกิริยาตอบสนองจากญี่ปุ่นก็ถือว่าสมเหตุสมผล” ซาโตรุ มิยาโมโตะ ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือจากมหาวิทยาลัยเซอิงะกุอิน จังหวัดไซตามะ ระบุ
“อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น และไม่มีใครรู้ว่าผลจะเป็นอย่างไรต่อไป”
“ในเมื่อนายกรัฐมนตรี อาเบะ เลือกที่จะเสี่ยง ก็คงต้องกล้าตัดสินใจทางการเมืองอย่างเด็ดเดี่ยวนับจากนี้”
ญี่ปุ่นและเกาหลีเหนือไม่ลงรอยกันมานานหลายสิบปี และยังไม่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ
สัญญาณประนีประนอมระหว่างทั้ง 2 ชาติเกิดขึ้นในช่วงที่เปียงยางเริ่มห่างเหินกับมหามิตรอย่างจีน
คิม กึน-ชิก อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยคยุงนัมของเกาหลีใต้ ชี้ว่า การที่ญี่ปุ่นมีเรื่องบาดหมางทั้งกับจีนและเกาหลีใต้อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้โตเกียวหันมาผูกมิตรกับโสมแดงมากขึ้น
“ญี่ปุ่นและเกาหลีเหนือต่างถูกโดดเดี่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้นเรื่อยๆ และความสัมพันธ์ระหว่างโตเกียวกับโซลและปักกิ่งก็ไม่มีทีท่าจะดีขึ้น ภายใต้การบริหารของ อาเบะ ซึ่งเป็นผู้นำหัวชาตินิยม”
“ผู้นำญี่ปุ่นอาจจะมองว่า การลดความบาดหมางกับเกาหลีเหนือน่าจะช่วยผ่อนปรนสถานการณ์ได้บ้าง”
หนังสือพิมพ์นิกเกอิ รายงานว่า เกาหลีเหนือได้ส่งมอบรายนามพลเมืองญี่ปุ่น 10 คน ที่ยังอาศัยอยู่ในรัฐโสมแดง รวมถึงบางรายที่ถูกสายลับเกาหลีเหนือลักพาตัวเข้าไปเมื่อหลายสิบปีก่อน โดยมีทั้งชื่อเสียงเรียงนามและประวัติส่วนตัวเป็นภาษาเกาหลี
ระหว่างการประชุมหารือเมื่อวันอังคาร (1) คณะผู้แทนเกาหลีเหนือยังได้แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นเห็นว่ามีอำนาจและน่าเชื่อถือมากพอ
เกาหลีเหนือยอมรับอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2002 ว่า เคยลักพาตัวชาวญี่ปุ่น 13 รายเข้าไปสอนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นให้แก่สายลับโสมแดงเมื่อช่วงทศวรรษ 1970-1980 ในจำนวนนี้มี 5 คน ที่ถูกส่งตัวกลับบ้านเกิดแล้ว ส่วนอีก 8 คนที่เหลือเปียงยางอ้างว่า “เสียชีวิต” โดยไม่แสดงหลักฐานยืนยัน จุดชนวนความโกรธแค้นอย่างมากในสังคมญี่ปุ่น
ล่าสุด รัฐบาลเกาหลีใต้ได้แถลงเตือนญี่ปุ่นในวันนี้ (3) ว่าไม่ควรบั่นทอนความพยายามของนานาชาติที่จะบีบให้เกาหลีเหนือล้มเลิกกิจกรรมนิวเคลียร์
กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ ชี้ว่า กรุงโซลเข้าใจประเด็นเรื่องมนุษยธรรมเกี่ยวกับปัญหาพลเมืองญี่ปุ่นที่ถูกลักพาตัว แต่การเจรจาระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีเหนือ รวมถึงการที่ญี่ปุ่นจะยกเลิกนโยบายคว่ำบาตรเกาหลีเหนือฝ่ายเดียวนั้น ควรกระทำอย่าง “โปร่งใส”
“มาตรการใดๆ ก็ตามที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศ จะต้องไม่บั่นทอนความพยายามของเกาหลีใต้ สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ที่จะยับยั้งโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธโสมแดง”
แม้ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ จะผนึกกำลังต่อต้านกิจกรรมนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือตลอดมา ทว่าลึกๆ แล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างโซลกับโตเกียวเปราะบางอย่างยิ่ง เนื่องจากข้อพิพาทที่เรื้อรังมาตั้งแต่สมัยญี่ปุ่นยึดครองคาบสมุทรเกาหลีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ชี้ว่า เปียงยางกำลังอาศัยประเด็นการลักพาตัวพลเมืองญี่ปุ่นมาทำลายสายสัมพันธ์ที่เปราะบางนี้ เพื่อดึงให้โตเกียวหันมาใช้ยุทธศาสตร์ต่อเกาหลีเหนือแบบเป็นอิสระมากขึ้น