รบ.ญี่ปุ่น “จ่อ” กลับมาหารือเกาหลีเหนืออีกครั้ง หลังบาดหมางกรณีสปายโสมแดง “ลักพาตัว” พลเมืองนับสิบ

เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นเปิดเผยวันนี้ (19) ว่า รัฐบาลแดนอาทิตย์อุทัยและรัฐบาลโสมแดงกำลังจะกลับมาร่วมเจรจาหารืออย่างเป็นทางการกันอีกครั้ง ภายหลังที่เกาหลีเหนือแสดงท่าทีเปลี่ยนไป ต่อประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการที่เปียงยางเคยลักพาตัวพลเมืองญี่ปุ่นในอดีต

เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นผู้นี้ระบุว่า ความคืบหน้านี้มีขึ้นเมื่อเหล่านักการทูตได้หารือนอกรอบ ในช่วงที่เจ้าหน้าที่สภากาชาดของสองประเทศเข้าร่วมการประชุมด้านมนุษยธรรม ที่เมืองเสิ่นหยาง ของจีน

“พวกเขาตกลงกันว่า จะเตรียมการจัดการประชุมหารือระดับรัฐบาลอีกครั้ง” เธอกล่าวกับเอเอฟพี โดยไม่เปิดเผยนามเนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้พูดกับสื่อมวลชน

ในช่วงปลายปี 2012 การพูดคุยระหว่างสองชาติได้ถูกระงับชั่วคราว เมื่อญี่ปุ่นออกมาย้ำข้อเรียกร้องที่ต้องการให้เปียงยางแสดงความบริสุทธิ์ใจในประเด็นการลักพาตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำลายความพยายามปรับปรุงสายสัมพันธ์ของสองประเทศที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตต่อกันอย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ มีการประกาศยกเลิกการประชุมอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2012 ซึ่งเป็นเวลาที่เกาหลีเหนือออกมาทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล จนนานาชาติพากันกล่าวประณาม ทั้งที่สายสัมพันธ์อย่างเป็นทางการจะช่วยสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมหาศาลให้แก่ประเทศยากจนแห่งนี้

เมื่อกว่า 10 ปีก่อน เกาหลีเหนือได้สร้างความเจ็บแค้นให้แก่ญี่ปุ่นด้วยการออกมายอมรับว่า ในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 โสมแดงได้ลักพาตัวชาวญี่ปุ่นไป 13 คน เพื่อฝึกหัดสายลับเกาหลีเหนือให้เรียนรู้ภาษา และขนบธรรมเนียมของแดนอาทิตย์อุทัย

ในบรรดาผู้ที่ถูกลักพาตัวไปทั้งหมด มี 5 คนถูกส่งกลับประเทศญี่ปุ่นพร้อมกับครอบครัวชาวเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ตามโสมแดงได้ออกมาเน้นย้ำว่าเหยื่อลักพาตัวอีก 8 คนเสียชีวิตแล้ว ทว่าไม่ได้แสดงหลักฐานที่เป็นรูปธรรม

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการเกาหลีเหนืออนุญาตให้บิดา มารดาที่ล่วงเลยเข้าสู่วัยชราของ เมกูมิ โยโกตะ เด็กสาวชาวญี่ปุ่นที่ถูกสายลับโสมแดงลักพาตัวไปทางเรือตั้งแต่ปี 1977 ขณะอายุ 13 ปี สามารถเดินทางไปเยี่ยมลูกสาวของเมกูมิได้เป็นครั้งแรก ที่มองโกเลีย ประเทศที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

โยโกตะ ซึ่งถูกลักพาตัวระหว่างเดินทางกลับบ้านหลังเลิกเรียน ยังเป็นสัญลักษณ์ของปัญหาการลักพาตัวที่สร้างความเจ็บปวดให้แก่ชาวญี่ปุ่น และการที่พ่อแม่ของเธอจะได้พบหน้าหลานสาวเป็นครั้งแรก ก็นับเป็นก้าวที่สำคัญไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง

ในสัปดาห์นี้ นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น ได้ยกย่องโสมแดงที่ยอมเปลี่ยนทัศนคติ ด้วยการยอมผ่อนปรนข้อเรียกร้องเดิม ซึ่งต้องการให้จัดการประชุมใดๆ ก็ตามในเกาหลีเหนือ

เมื่อปี 2004 เกาหลีเหนือได้ส่งอัฐิที่พวกเขาอ้างว่าเป็นของโยโกตะ อย่างไรก็ตาม โตเกียวระบุว่าผลการพิสูจน์ดีเอ็นเอในประเทศชี้ว่า เถ้ากระดูกดังกล่าวไม่ใช่ของเธอ

ก่อนหน้านี้ บิดา มารดาของเธอที่อยู่ในวัย 81 และ 78 ปี ได้ปฏิเสธที่จะเดินทางไปพบหลานสาวซึ่งตอนนี้มีอายุ 26 ปี เนื่องจากกลัวว่าจะถูกเกาหลีเหนือใช้เป็นเครื่องมือในการยืนยันว่าเมกูมิเสียชีวิตแล้วจริงๆ

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นยังคงยึดมั่นในความคิดเดิมว่าโยโกตะและชาวญี่ปุ่นคนอื่นๆ ที่หายไปอาจยังมีชีวิตอยู่ ตลอดจนพลเมืองอื่นๆ ที่ต้องสงสัยว่าถูกเกาหลีเหนือลักพาตัวไป