xs
xsm
sm
md
lg

วอลสตรีทเจอร์นัลรายงาน “หุ้นซีพีฟูดส์” ร่วงหนัก 6.1% หลังโดนพิษแรงงานต่างด้าวกระหน่ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - นักลงทุนต่างพากันเทหุ้นในบรรดาบริษัทส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารยักษ์ใหญ่ หลังจากที่บริษัท ซีพีฟูดส์ ผู้ส่งออกกุ้งแช่แข็งอันดับ 1 ของโลกถูกสื่อนอกแฉการใช้แรงงานทาสต่างด้าวในการผลิตกุ้งในฟาร์มของบริษัท ส่งผลทำให้ไทยถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯจากปัญหาการใช้แรงงานทาสและแรงงานเด็กในอุตสาหกรรมการประมงที่ซับซ้อนของไทย

วอลสตรีทเจอร์นัลรายงานเมื่อวานนี้ (26) ว่า หุ้นในบริษัทธุรกิจการเกษตรของไทย เช่น บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ฟูดส์ PCL ที่บริหารโดยเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ได้ร่วงอย่างหนักนับตั้งแต่หนังสือพิมพ์อังกฤษ เดอะการ์เดียน เปิดโปงในวันที่ 10 มิถุนายน ถึงการใช้แรงงานทาสต่างด้าวในอุตสาหกรรมการประมงของไทย โดยพบว่าหุ้นซีพีฟูดส์ร่วงลง 6.1% และบริษัท ไทยยูเนียนโฟรเซนโปรดักส์ PCL ร่วงไปที่ 3.6% รวมไปถึง บริษัท GFPT PCL หล่นไป 1.5% และในช่วงระยะเวลาเดียวกัน ดัชนีเบนช์มาร์กของ SETเพิ่ม 0.8%

ในวันที่ 20 มิถุนายน กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ประกาศลดระดับไทยจากกลุ่มที่ 2 ลงสู่กลุ่มที่ 3 ต่ำสุดในรายงานประจำปีการค้ามนุษย์ของสหรัฐฯ เทียบไทยติดกลุ่มประเทศที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรงที่สุด เช่น เกาหลีเหนือ และคิวบา

วอลสตรีทเจอร์นัลรายงานต่อว่า ไทยได้ส่งออกกุ้งสู่ตลาดโลกมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ต่อปี และส่วนมากจะนำเข้าสู่สหรัฐฯ โดยไทยถูกจัดเป็นผู้ส่งออกกุ้งรายใหญ่ที่สุดในโลก

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (Maybank Kim Eng) ได้แถลงลงวันที่ 24มิถุนายนว่า จากการที่ไทยถูกจัดลดระดับในรายงานประจำปีของสหรัฐฯ นั้นส่งผลกระทบในอุตสาหกรรมอาหารทะเลไทยแล้ว และชี้ว่าอาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อกำแพงไร้ภาษีของอุตสาหกรรมอาหารทะเลไทย โดยถ้าหากไทยถูกสหรัฐฯ แบนอาหารทะเลส่งออกของไทย มีความเป็นไปได้ว่าทางสหภาพยุโรป และญี่ปุ่นจะออกมาตรการในรูปแบบคล้ายกัน และเมย์แบงก์ กิมเอ็งยังเสริมว่า การคว่ำบาตรอย่างเต็มรูปแบบต่อการส่ออกกุ้งไทยสามารถลด GDP ของประเทศได้เกือบ 1%

สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย (TFFA) ยืนยันว่า ไม่มีการใช้แรงงานผิดกฏหมายในอุตสาหกรรม ส่วนซีพีฟูดส์แถลงว่า ในส่วนรายงานที่เปิดเผยโดยเดอะการ์เดียน ทางบริษัทได้สอบสวนระบบซัปพลายเออร์ของบริษัททั้งระบบ และได้ประนามการค้ามนุษย์และแรงงานทาสทุกแง่มุมผ่านแถลงการณ์ของบริษัทเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน

และบริษัท ไทยยูเนียนโฟรเซนจะร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยรวมถึงภาครัฐผลักดันไม่ให้สหรัฐฯ คว่ำบาตรไทย โดยทางบริษัทฯ ได้เปิดเผยกับวอลสตรีทเจอร์นัลทางอีเมลว่า ทางบริษัท ไทยยูเนียนโฟรเซน ได้กล่าวอย่างชัดเจนต่อบริษซัปพลายเออร์ทั้งหมดว่า หากมีการทำผิดในการแอบใช้แรงงานทาส หรือเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ จะมีผลทำให้ทางบริษัทมีสิทธิระงับความร่วมมือทางธุรกิจลงในทันทีโดยไม่มีการประนีประนอมแต่อย่างใด” วอลสตรีทเจอร์นัลรายงาน

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจค้าปลีกต่างชาติยักษ์ใหญ่บางแห่ง อาทิ คาร์ฟูร์ของฝรั่งเศส ICA จากนอร์เวย์ได้ยกเลิกการสั่งซื้อกุ้งจากซีพีฟูดส์ก่อนหน้านี้แล้ว ทางซีพีฟูดส์ และ GFPT ไม่แสดงความเห็นเพิ่มเติมจากรายงานข่าวชิ้นนี้

และท้ายที่สุด เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ได้เสริมตบท้ายว่า ซีพีฟูดส์ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากพิษแรงงานทาสและการถูกขึ้นบัญชีดำของไทยเพราะรายได้จากการส่งออกกุ้งนั้นสูงเมื่อเทียบสัดส่วนกับรายได้รวมของบริษัท และยังสามารถทำกำไรได้สูงกว่าการส่งออกปศุสัตว์ “ในขณะที่จุดอ่อนของภาคอุตสาหกรรมส่งออกกุ้งไทยยังไม่มีผลกระทบอย่างมากต่อยอดรายได้ของซีพีฟูดส์ แต่กระนั้นกระทบผลกำไรของทั้งอุตสาหกรรมในภาพรวม” เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แถลง
หนึ่งในร้านค้าที่สั่งกุ้งจากซีพีฟูดส์ขายในอังกฤษตามที่เดอะการ์เดียนเสนอข่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น