เอเอฟพี – สหรัฐฯ ปลดล็อกเงินช่วยเหลือกองทัพอียิปต์มูลค่า 572 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 18,500 ล้านบาท) และกำลังเร่งจัดส่งเฮลิคอปเตอร์อาปาเชจำนวน 10 ลำให้ไคโร ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น เคร์รี เรียกร้องให้ผู้นำอียิปต์เคารพเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน
เคร์รี นับเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของสหรัฐฯ ที่เดินทางไปพบกับประธานาธิบดี อับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซีซี หลังจากที่เขาก้าวขึ้นปกครองอียิปต์เมื่อต้นเดือนมิถุนายน ท่ามกลางระบอบประชาธิปไตยในอียิปต์ที่ง่อนแง่นเรื่อยมาตั้งแต่รัฐบาลเผด็จการ ฮอสนี มูบารัค ถูกโค่นอำนาจไปเมื่อปี 2011
การเดินทางเยือนตะวันออกกลางของ เคร์รี มีเป้าหมายหลักเพื่อหาทางออกให้กับวิกฤตการเมืองในอิรัก ซึ่งล่าสุดกลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและเลแวนต์ (ISIL) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่ ได้รุกคืบยึดเมืองใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกหลายเมืองเมื่อวานนี้(22)
เคร์รี เผยต่อสื่อมวลชนว่า เขาได้เน้นย้ำกับประธานาธิบดี อัล-ซีซี อย่างตรงไปตรงมาว่า รัฐบาลอียิปต์ชุดใหม่ “จะต้องเคารพสิทธิสากล และเสรีภาพของประชาชนชาวอียิปต์”
“เรายังได้หารือเกี่ยวกับบทบาทที่สำคัญของสังคมพลเรือน เสรีภาพสื่อมวลชน หลักนิติธรรม และกระบวนการยุติธรรมตามระบอบประชาธิปไตย”
ถ้อยแถลงของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มีขึ้น ก่อนที่ศาลอียิปต์จะอ่านคำพิพากษาคดีผู้สื่อข่าวอัล-ญาซีเราะห์ 3 คนกับพวกอีก 17 คน ถูกกล่าวหาว่าช่วยเหลือกลุ่มก่อการร้ายภราดรภาพมุสลิม (Muslim Brotherhood) ในวันนี้(23)
ผู้สื่อข่าวทั้งสามถูกตั้งข้อหา “เผยแพร่ข่าวเท็จ” และมีความสัมพันธ์กับกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ซึ่งเป็นองค์กรที่ถูกขึ้นบัญชีดำและหนุนหลังอดีตประธานาธิบดี โมฮาเหม็ด มอร์ซี คดีนี้ได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลก ขณะที่นักสิทธิมนุษยชนเกรงว่าอียิปต์จะถอยหลังลงคลองกลับไปเป็นรัฐเผด็จการ ยิ่งกว่าสมัยที่ มูบารัค เรืองอำนาจเสียอีก
นับตั้งแต่ มอร์ซี ซึ่งมาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยถูกทหารโค่นอำนาจในเดือนกรกฎาคม ปี 2013 รัฐบาลชั่วคราวอียิปต์ซึ่งมีกองทัพหนุนหลังก็พยายามกวาดล้างผู้สนับสนุนภราดรภาพมุสลิม จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะบนท้องถนนไปถึง 1,400 ราย และอีกอย่างน้อย 15,000 คนต้องถูกจำคุก
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ซึ่งเดินทางไปอียิปต์พร้อมกับ เคร์รี ให้สัมภาษณ์บนเครื่องบินว่า “รัฐบาลอียิปต์จำเป็นต้องใช้นโยบายทางการเมืองที่ไม่แบ่งแยก ซึ่งหมายความว่าพวกเขาต้องหาทางผูกมิตรกับภราดรภาพมุสลิมให้ได้”
ก่อนที่ เคร์รี จะเดินทางถึงกรุงไคโรเพียง 1 วัน ศาลอียิปต์ได้ยืนยันโทษประหารชีวิตสำหรับนักโทษอิสลามิสต์ 183 คน รวมถึง โมฮาเหม็ด บาร์ดี ผู้นำกลุ่มภราดรภาพมุสลิม
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยด้วยว่า วงเงินช่วยเหลือมูลค่า 572 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่วอชิงตันสั่งระงับไว้ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วถูกเบิกจ่ายแก่รัฐบาลอียิปต์ไปเมื่อ 10 วันก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายตามข้อตกลงกลาโหมที่ทั้งสองฝ่ายมีร่วมกันอยู่
สหรัฐฯ แถลงเมื่อเดือนเมษายนว่า รัฐบาลมีแผนจะปลดล็อกความช่วยเหลือแก่อียิปต์ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี รวมถึงจัดส่งเฮลิคอปเตอร์โจมตีอาปาเช 10 ลำให้กองทัพไคโรใช้ปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายบริเวณคาบสมุทรไซนาย
“เฮลิคอปเตอร์อาปาเชจะเดินทางมาถึงอียิปต์โดยเร็ววันนี้แน่นอน” เคร์รี แถลงเพียงไม่กี่นาทีก่อนอำลากรุงไคโร และเดินทางต่อไปยังกรุงอัมมาน เมืองหลวงของจอร์แดน เพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในอิรัก
ทั้งนี้ เคร์รี ยืนยันว่า สหรัฐฯ “ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในอิรักวันนี้” พร้อมชี้ว่า ค่านิยมของกลุ่ม ISIL ซึ่งเน้นความรุนแรงและการกดขี่ข่มเหงไม่เพียงเป็นภัยต่ออิรัก แต่ยังคุกคามความมั่นคงของตะวันออกกลางทั้งภูมิภาค