เอเอฟพี - ชาวมุสลิมพากันปิดกิจการห้างร้านหลายร้อยแห่งในกรุงโคลอมโบวันนี้ (19 มิ.ย.) เพื่อเป็นการประท้วงเหตุจลาจลฝีมือชาวพุทธหัวรุนแรง และเป็นการท้าทายคำขอของประธานาธิบดี มหินทา ราชปักษา แห่งศรีลังกา ที่ขอให้พวกเขาเปิดกิจการตามปกติ
ร้านค้าและร้านอาหารกลางกรุงโคลอมโบต่างปิดตัวลง หลังเกิดเหตุจลาจลที่เมืองตากอากาศชายทะเล 2 แห่งซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และมีประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ตลอดจนบ้านเรือนและกิจการของชาวมุสลิมถูกเผาทำลาย
พนักงานขายของชาวมุสลิมที่ไม่เปิดเผยชื่อบอกเอเอฟพีว่า “ชาวบ้านกำลังประท้วงกลุ่มบีบีเอส และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ปกป้องคุ้มครองชุมชนของพวกเรา”
“เราขอให้รัฐบาลเอาผิดผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุจลาจลเหล่านี้ด้วย”
นักธุรกิจชาวสิงหลคนหนึ่งกล่าวว่า ร้านค้าส่วนใหญ่ที่ตลาดค้าส่งเพททาห์ ในกรุงโคลอมโบ ซึ่งโดยปกติแล้วมีบรรยากาศคึกคักจอแจก็พากันปิดประท้วงด้วยเช่นกัน
เหตุรุนแรงซึ่งปะทุขึ้นเมื่อคืนวันอาทิตย์ (15) และคืนวันจันทร์ (16) ได้ถูกกล่าวโทษว่า เป็นฝีมือกองกำลังชาวพุทธหัวรุนแรง “พุทโธพลเสนา” (บีบีเอส) ในเมืองอาลูธกามา และเบรูวาลา ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโคลอมโบไปทางใต้ราว 60 กิโลเมตร
การปิดร้านครั้งนี้เกิดขึ้น ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า มีพระสงฆ์ที่ยึดมั่นในแนวทางสายกลางรูปหนึ่ง ซึ่งออกมากล่าวต่อต้านกลุ่มบีบีเอสถูกลักพาตัวและทุบตี จากนั้นจึงมีผู้พบเห็นอยู่ข้างถนนนอกกรุงโคลอมโบ เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ (19)
โฆษกตำรวจระบุว่า ยังไม่ทราบอาการของพระสงฆ์รูปนี้ ซึ่งมีชาวบ้านผ่านมาพบเห็นเข้าในสภาพถูกมัดมือมัดเท้าในเมืองปาณาทุระ
ทั้งนี้ กลุ่มบีบีเอส ซึ่งปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ได้ถูกกล่าวหาว่า ตั้งเป้าโจมตีพระสงฆ์ในพุทธศาสนาที่ต่อต้านยุทธวิธีอันแข็งกร้าวของกลุ่มหัวรุนแรง
วานนี้ (18) ประธานาธิบดีราชปักษา ได้วิงวอนให้พุทธศาสนิกชนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ และชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมลดการแสดงท่าทีตึงเครียดต่อกัน และหันมาสร้างสันติภาพ
ในระหว่างตรวจเยี่ยมเมืองเบรูวาลาซึ่งประสบเหตุรุนแรง ราชปักษาให้คำมั่นว่า จะสืบสวนเหตุจลาจลครั้งนี้ และวอนไม่ให้ชาวมุสลิมปิดร้าน หรือหยุดงานประท้วง ซึ่งเกิดขึ้นอย่างแพร่หลายตามชุมชนชาวมุสลิม
การก่อเหตุจลาจลคราวนี้นับเป็นการปะทะกันระหว่างชาวพุทธกับชาวมุสลิมระลอกล่าสุดในศรีลังกา ภายหลังที่เมื่อเดือนมกราคม และเมื่อปีที่แล้ว เกิดเหตุผู้ประท้วงชาวพุทธโจมตีมัสยิดแห่งหนึ่งในกรุงโคลอมโบ
ชาวมุสลิมคิดเป็นสัดส่วนราว 10 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด 20 ล้านคนในศรีลังกา แต่กลับถูกกลุ่มชาตินิยมชาวพุทธกล่าวหาว่า ว่ามีอิทธิพลมากเกินไปในประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธแห่งนี้
วานนี้ (18) “ศรีลังกา มุสลิม คองเกรส ปาร์ตี” (เอสแอลเอ็มซี) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองมุสลิม ในรัฐบาลผสมของประธานาธิบดีราชปักษา ได้บอยคอตต์รัฐสภา พร้อมทั้งกล่าวหาเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจว่า ไม่ยอมควบคุมกลุ่มบีบีเอส
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า สถานการณ์ในเมืองตากอากาศที่ประสบเหตุจลาจลเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติในวันนี้ (19) แต่ทหารและตำรวจยังคงลาดตระเวนตามท้องถนนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นอีก
สหรัฐฯ และนานาชาติได้ออกมากล่าวประณามการก่อเหตุรุนแรงในศรีลังกา ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตของชาติตะวันตกในกรุงโคลอมโบประกาศเตือนให้ พลเมืองของตนที่กำลังท่องเที่ยวในพื้นที่เสี่ยงพยายามเก็บตัวอยู่ในที่พัก