เอเอฟพี - ประธานาธิบดี มหินทา ราชปักษา แห่งศรีลังกา รับหน้าที่เป็นประธานในการเดินสวนสนามฉลองชัยชนะครั้งใหญ่วันนี้ (18 พ.ค.) ในวาระครบรอบ 5 ปี การสิ้นสุดสงคราม “กบฏพยัคฆ์ทมิฬ” ภายหลังที่ก่อนหน้านี้ ได้ออกมาประกาศห้ามจัดงานรำลึกถึงเหยื่อผู้เสียชีวิตจากการสู้รบ
ขณะที่นักการทูตชาติตะวันตกต่างหลีกเลี่ยงไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับการเดินสวนสนาม ราชปักษา ยังคงยืนกรานว่า จะไม่ยอมจำนนต่อบรรดานักวิจารณ์ชาวต่างชาติที่กดดันให้เขาสืบสวนข้อกล่าวหาที่ว่า กองกำลังของรัฐบาลสังหารประชาชนเรือนหมื่น ในช่วงสุดท้ายของสงคราม
“รัฐบาลบางชุดหูหนวก ตาบอด และโง่เขลา ที่ต่อต้านการฉลองชัยชนะครั้งนี้” ราชปักษากล่าวในการแถลงที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ ณ เมืองมาตารา บ้านเกิดของเขา ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของศรีลังกา และเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของชาวสิงหล
เขากล่าวเสริมว่า “เราไม่ได้ฉลองชัยชนะในสงคราม เรากำลังฉลองให้แก่สันติภาพ โดยไม่สนว่าจะมีใครต่อต้านหรือไม่อยากเข้าร่วม เราจะจัดงานรำลึกในวันนี้เสมอ”
ทั้งนี้ สงครามที่ยืดเยื้อยาวนานถึง 37 ปี ได้ดำเนินมาถึงจุดสิ้นสุดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ปี 2009 เมื่อกองทหารศรีลังกาสามารถปลิดชีพ เวฬุพิไล ประภาการัน ผู้บัญชาการสูงสุดของกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬ ในการโจมตีอย่างรุนแรงที่เมืองมุลลอิทธิวู ทางภาคเหนือของประเทศ
องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประมาณการว่า มีผู้เสียชีวิตจากสงครามอย่างน้อย 100,000 ราย โดยในจำนวนนี้มีราว 40,000 คนจบชีวิตลงในช่วงเดือนท้ายๆ ของการสู้รบ
อย่างไรก็ตาม ราชปักษาออกมาปฏิเสธว่า ไม่มีการเข่นฆ่าพลเรือนในช่วงสุดท้ายของสงคราม ทั้งยังต่อต้านข้อเรียกร้องจากนานาชาติซึ่งต้องการไต่สวนข้อกล่าวหาที่ว่า ทหารศรีลังกาเข่นฆ่าพลเรือนหลายพันคน ขณะถูกกวาดต้อนเข้าไปในเขตห้ามยิง
นอกจากนี้ รัฐบาลของเขายังสั่งห้ามไม่ให้มีการจัดพิธีฉลองใดๆ ในสุดสัปดาห์นี้ และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าสลายฝูงชนที่มาร่วมงานรำลึก ณ สภาเทศบาล ในเมืองจัฟนาทางภาคเหนือของประเทศ ซึ่งเคยเป็นสมรภูมิรบ
การเดินสวนสนามในวันนี้ (18) มีทหารเข้าร่วมราว 7,500 นาย ทั้งยังมีการจัดแสดงรถถัง เรือปืน และเครื่องบินรบ
แคนาดา ซึ่งมักออกมาวิพากษ์วิจารณ์ศรีลังกาอย่างรุนแรง ในประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในช่วงสงคราม ได้ประกาศว่า บรรดานักการทูตระดับสูงของแคนาดาประจำกรุงโคลัมโบ ขอบอยคอตต์การเดินสวนสนามวันนี้ (18) ขณะที่เหล่านักการทูตระดับสูงจากชาติตะวันตกอื่นๆ เป็นต้นว่า สหรัฐฯ และมหาอำนาจอดีตเจ้าอาณานิคมอย่างอังกฤษ ก็ไม่มาปรากฏตัวในงานวันนี้ (18)
เชลลีย์ ไวติง ข้าหลวงใหญ่แคนาดา (เอกอัครราชทูต) ระบุในคำแถลงที่ส่งถึงหนังสือพิมพ์ศรีลังกาเมื่อวันศุกร์ (16) ว่า การเดินสวนสนามครั้งนี้เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากรัฐบาลควรจะหันมาให้ความสำคัญกับการปรองดองมากกว่า
เธอกล่าวว่า “5 ปีหลังจากสงครามยุติลง ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ศรีลังกาจะก้าวผ่านวาทกรรมสมัยสงคราม แล้วเดินหน้าหาทางปรองดองอย่างจริงจัง”
กลุ่มพยัคฆ์ทมิฬของประภาการัน ผู้เป็นที่ร่ำลือในเรื่องการก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย ได้ต่อสู้เพื่อประกาศอิสรภาพในดินแดนบ้านเกิดของกลุ่มน้อยชาวทมิฬ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 10 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมดในศรีลังกา
