เอเอฟพี - นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันรายหนึ่งถูกเกาหลีเหนือจับกุมฐาน “ทำกิจกรรมบ่อนทำลายรัฐ” ทำให้เวลานี้มีพลเมืองสหรัฐฯ ถูกคุมขังอยู่ในดินแดนโสมแดงรวม 3 รายแล้ว สื่อเกาหลีเหนือรายงานวันนี้ (6)
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือยังไม่เปิดเผยชื่อภาษาอังกฤษของชาวอเมริกันรายนี้ โดยบอกแต่เพียงว่าเจ้าหน้าที่โสมแดงกำลังสอบสวนเขาอยู่
“พลเมืองสหรัฐฯ คนนี้ถูกจับฐานทำกิจกรรมบ่อนทำลายสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (DPRK)” เคซีเอ็นเอรายงาน
“เขาเดินทางเข้าประเทศมาเมื่อวันที่ 29 เมษายนในฐานะนักท่องเที่ยว และได้ทำกิจกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายของเกาหลีเหนือ”
ชาวอเมริกันอีก 2 คนที่ติดอยู่ในเกาหลีเหนือก่อนหน้านี้ ได้แก่ แมทธิว ท็อดด์ มิลเลอร์ ซึ่งฉีกวีซ่าทิ้งที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง และร้องขอ “ลี้ภัย” ในรัฐโสมแดงเมื่อเดือนเมษายน ส่วนอีกรายคือ เคนเนธ แบ ซึ่งถูกจับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2012 และถูกศาลเกาหลีเหนือตัดสินใช้แรงงานหนัก 15 ปี โทษฐานพยายามโค่นล้มระบอบคิม
สหรัฐฯ พยายามโน้มน้าวให้เปียงยางคืนอิสรภาพแก่ แบ แต่ก็ยังไม่เป็นผล
เมื่อเดือนที่แล้ว สหรัฐฯ ได้ประกาศเตือนชาวอเมริกันให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปเกาหลีเหนือ เพราะอาจตกเป็นเหยื่อการจับกุมแบบไร้เหตุผล แม้จะเดินทางไปกับทัวร์ท่องเที่ยวถูกกฎหมายก็ตาม
“ในรอบ 18 เดือนที่ผ่านมา มีพลเมืองสหรัฐฯ หลายรายที่ถูกทางการเกาหลีเหนือจับกุม ระหว่างเดินทางเข้าไปกับคณะทัวร์” เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม
เมื่อปี 2013 เมอร์ริล นิวแมน ทหารอเมริกันวัย 85 ปีซึ่งเคยร่วมรบในสงครามเกาหลี ก็ถูกรัฐบาลโสมแดงกักขังไว้นานกว่า 1 เดือน ทั้งที่เขาเข้าไปท่องเที่ยวโดยมีมัคคุเทศก์นำทาง
หลังถูกปล่อยตัวและเดินทางกลับถึงบ้านเกิดในรัฐแคลิฟอร์เนีย นิวแมน ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือบังคับให้เขียนจดหมาย “สารภาพผิด” ให้สัมภาษณ์ว่า เปียงยางอาจเข้าใจผิดว่าความอยากรู้อยากเห็นของเขามี “จุดประสงค์ร้ายแอบแฝง”
เขาสรุปจากประสบการณ์ที่ได้รับว่า “ในมุมมองของเกาหลีเหนือ สงครามเกาหลียังไม่จบ และหากคุณเป็นชาวต่างชาติ การแสดงทัศนะเกี่ยวกับสงครามอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์อาจนำความเดือดร้อนมาให้”
