เอเอฟพี – ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ประณามเกาหลีเหนือว่าเป็น “รัฐนอกคอก” (pariah state) และเส้นพรมแดนเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ก็เป็นเสมือน “เส้นกั้นเสรีภาพ” ด้วย
โอบามา ซึ่งปิดฉากการเยือนกรุงโซลเป็นเวลา 2 วัน ได้เดินทางไปเยี่ยมกองกำลังรักษาการณ์ยองซานของสหรัฐฯในเกาหลีใต้ พร้อมกับประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย และกล่าวสุนทรพจน์ต่อบรรดานายทหารอเมริกันว่า ความทะเยอทะยานของโสมแดงที่จะครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ “มีแต่จะทำให้ถูกโดดเดี่ยวมากขึ้นเท่านั้น”
เมื่อไม่กี่วันก่อน สถาบันวิจัยสหรัฐฯ-เกาหลีแห่งมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ ได้เผยภาพถ่ายดาวเทียม ซึ่งบ่งชี้ว่า เกาหลีเหนือกำลังตระเตรียมการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งใหม่ที่สถานทดสอบ ปุงกเย-รี ซึ่งจะเป็นการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ครั้งที่ 4 แม้ว่านานาชาติจะใช้มาตรการคว่ำบาตรอย่างหนักเพื่อยับยั้งกิจกรรมนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือมาโดยตลอดก็ตาม
ทั้งนี้ ก่อนที่ โอบามา จะมีถ้อยแถลงเพียงไม่กี่ชั่วโมง สื่อรัฐบาลเกาหลีเหนืออ้างว่าได้ควบคุมตัวพลเมืองสหรัฐฯ คนหนึ่งเอาไว้นานถึง 2 สัปดาห์แล้ว เนื่องจาก “แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว” ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง
โอบามา ไม่ได้เอ่ยถึงชาวอเมริกันคนดังกล่าวที่เกาหลีเหนือระบุชื่อว่า มิลเลอร์ แมทธิว ท็อดด์ วัย 24 ปี แต่กล่าวว่า เส้นพรมแดนระหว่างเกาหลีเหนือและใต้นั้นแบ่งแยก 2 ดินแดนที่มีความแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
“เส้นขนานที่ 38 องศาเหนือซึ่งแบ่งเกาหลีออกเป็น 2 ส่วนไม่ต่างอะไรกับเส้นแบ่ง 2 โลก แบ่งสังคมหนึ่งที่เปิด กับอีกสังคมหนึ่งที่ปิด” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว
“มันคือเส้นแบ่งระหว่างประชาธิปไตยที่กำลังเติบโต กับรัฐนอกคอกที่เลือกจะปล่อยให้ประชาชนอดอยากมากกว่าตอบสนองความหวังและความฝันของพวกเขา”
“เสรีภาพไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ความก้าวหน้าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ประชาธิปไตยก็ไม่ได้เกิดขึ้นโดยความบังเอิญ... สิ่งเหล่านี้ต้องต่อสู้เพื่อให้ได้มา และต้องปกปักรักษาไว้ให้ได้”
เว็บไซต์ 38North ซึ่งเป็นบล็อกของสถาบันสหรัฐฯ-เกาหลี ระบุว่า จากการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมเมื่อวันที่ 23 เมษายน พบความเคลื่อนไหวของยานพาหนะและวัสดุอุปกรณ์ใกล้กับทางเข้าอุโมงค์ทดสอบ 2 แห่งที่เกาหลีเหนือสร้างเสร็จแล้ว ในภาพยังปรากฏสิ่งที่คล้ายกับยานพาหนะสั่งการและควบคุม ซึ่งใช้เพื่อการสื่อสารระหว่างสถานที่ทดสอบนิวเคลียร์กับหน่วยงานอื่นๆ
เกาหลีเหนือเคยทดสอบนิวเคลียร์มาแล้ว 3 ครั้ง ในปี 2006, 2009 และ 2013
โอบามา ยังกล่าวโจมตีโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือว่าไม่เป็นประโยชน์ใดๆ แม้แต่น้อย
“การที่เกาหลีเหนือพยายามครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ให้ได้มีแต่จะนำไปสู่การถูกโดดเดี่ยวมากขึ้นเท่านั้น... มันไม่ใช่สัญลักษณ์ของความเข้มแข็ง เพราะการข่มขู่ สั่งเคลื่อนกำลังพล หรือเอาขีปนาวุธมาอวดอ้าง ชาติไหนๆ ก็ทำเป็นกันทั้งนั้น”
“(อาวุธนิวเคลียร์) ไม่ได้ทำให้พวกคุณแข็งแกร่ง ไม่ได้สร้างความมั่นคง โอกาส หรือความเคารพนับถือใดๆ เลย เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่อาจได้มาด้วยกำลัง แต่จะต้องได้รับจากผู้อื่น”
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือรายงานวันนี้ (26) ว่า ผู้นำ คิม จองอึน ได้สั่งให้ทหารโสมแดงทุกนายเตรียมพร้อมรับมือ “ความขัดแย้งกับสหรัฐฯ ที่ใกล้จะเกิดขึ้น”
โอบามา ซึ่งเดินทางเยือน 4 ประเทศในเอเชีย โดยเริ่มที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก ยืนยันว่า สหรัฐฯ พร้อมที่จะยืนหยัดเคียงข้างมิตรสหายในภูมิภาคนี้ และความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีใต้นั้น “ยังแข็งแกร่งเหมือนที่เคยเป็นมา”