โอบามาระบุ “ระบบทาสบำเรอกาม” ทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลก เป็นการล่วงละเมิดขั้น “เลวทราม”

เอเอฟพี - ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ แถลงวันนี้ (25 เม.ย.) ว่าระบบทาสบำเรอกามของญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน “ขั้นเลวร้าย” และจะต้องมีการเปิดเผยความทุกข์ร้อนของเหยื่อกามารมณ์เหล่านี้

ขณะเข้าแทรกแซงประเด็นปัญหาซึ่งเป็นที่ถกเถียงหนักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ โอบามากล่าวว่า จำเป็นต้องมีการคิดบัญชีความผิดที่กองทัพของสมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นก่อขึ้น ทั้งในช่วงก่อนและระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อสตรีหลายพันคนถูกบีบบังคับมาเป็นโสเภณี

เขาสำทับว่า “การกระทำเช่นนี้เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นเลวร้าย และเลวทรามต่ำช้า ผู้หญิงเหล่านี้ถูกล่วงละเมิดในลักษณะที่น่าตกตะลึง แม้ว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในยามสงครามก็ตาม”

“และความเจ็บปวดของพวกเธอจะต้องได้รับการเปิดเผย พวกเธอต้องได้รับความเคารพ และควรมีการบอกเล่าอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างตรงตามความเป็นจริง และชัดเจน”

“ผมคิดว่า นายกรัฐมนตรี (ชินโซ) อาเบะ (แห่งญี่ปุ่น) ตระหนักถึงประเด็นปัญหานี้ดี และแน่นอนว่าประชาชนชาวญี่ปุ่นรู้ดีว่าควรจะมีการบอกเล่าเหตุการณ์ในอดีตอย่างซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา และยุติธรรม”

แม้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะออกมากล่าวขอโทษผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อกามารมณ์ในสมัยสงครามโลกอย่างเป็นทางการ แต่เกาหลีใต้และประเทศอื่นๆ กล่าวหาโตเกียวว่า ไม่ได้พยายามชดใช้ความผิดอย่างเพียงพอต่อ “สตรีเพื่อการผ่อนคลาย” ซึ่งถูกบีบบังคับมาปรนเปรอตัณหาของกองทัพแดนอาทิตย์อุทัยในช่วงที่ญี่ปุ่นล่าอาณานิคม

ขณะที่ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากยอมรับว่า ประเทศของตนผิดจริง เหล่านักการเมืองระดับอาวุโสบางคน ซึ่งรวมถึงนายกรัฐมนตรี อาเบะ ชี้ว่าประเด็นนี้ถูกใส่สีตีไข่จนเกินจริง ทำให้กับสายสัมพันธ์ระหว่างโตเกียวกับโซลสั่นคลอนหนัก

โอบามา ซึ่งเดินทางถึงเกาหลีใต้วันนี้ (25) ภายหลังการเยือนญี่ปุ่นนาน 3 วัน กล่าวว่า ทั้งสองชาติจะต้องหาหนทางก้าวไปข้างหน้า

“การมองสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และการย้อนกลับไปมองอดีต ตลอดจนการหาหนทางเยียวยาความเสียใจ และความเจ็บปวดในอดีตจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวเกาหลี”

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กระแสชาตินิยมที่ในดินแดนทั้งสองได้จุดชนวนให้ความตึงเครียดทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จนเกิดการโต้เถียงขึ้น โดยกลุ่มกดดันชาวเกาหลีใต้ในสหรัฐฯ สร้างรูปปั้น “สตรีเพื่อการผ่อนคลาย” ขึ้นมา

วอชิงตันพบว่า เป็นเรื่องน่าผิดหวังที่สองชาติพันธมิตรสำคัญในภูมิภาคเดียวกันไม่สามารถสมานรอยร้าวแล้วกลับมาร่วมมือกันจัดการประเด็นปัญหาอื่นๆ เช่น โครงการอาวุธนิวเคลียร์ของจีนและเกาหลีเหนือ

สถาบันสหรัฐฯ - เกาหลี แห่งมหาวิทยาลัยจอห์นสฮอปกินส์ เผยว่า สถาบันวิจัยแห่งนี้ระบุว่า จากภาพถ่ายดาวเทียมเมื่อ 2 วันที่แล้ว (23 เมษายน) พบความเคลื่อนไหวที่สถานทดสอบนิวเคลียร์ ปุงกเย-รี ในเกาหลีเหนือ “ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับการตระเตรียมทดสอบระเบิดนิวเคลียร์”

รายงานฉบับนี้ตอกย้ำคำเตือนจากเกาหลีใต้ซึ่งระบุว่า โสมแดงอาจกำลังมีแผนจะทดสอบนิวเคลียร์ในช่วงเวลาเดียวกับที่โอบามาเดินทางเยือนกรุงโซลเป็นเวลา 2 วัน