เอเอฟพี – ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เปิดการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงในวันนี้(16) เพื่อหาหนทางยุติปัญหาเรื่องสตรีชาวเกาหลีที่ถูกกองทัพญี่ปุ่นเกณฑ์เป็นทาสบำเรอกามในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นปมปัญหาทางประวัติศาสตร์ที่บั่นทอนความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่าง 2 ชาติเพื่อนบ้านมาอย่างยาวนาน
สำนักข่าวเกียวโดอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์ออกนามซึ่งระบุว่า ผู้แทนฝ่ายญี่ปุ่นจะแจ้งให้ทางเกาหลีใต้ทราบว่า โตเกียวกำลังพิจารณาเรื่องการกล่าวขออภัยอย่างเป็นทางการ และจ่ายเงินชดเชยให้แก่ “สตรีเพื่อการผ่อนคลาย” เหล่านั้น
จุนนิจิ ฮิฮาระ หัวหน้าสำนักงานกิจการเอเชียและโอเชียเนียสังกัดกระทรวงการต่างประเทศ รับหน้าที่เป็นผู้แทนรัฐบาลญี่ปุ่นไปเจรจากับ ลี ซัง-ด๊อก ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐบาลเกาหลีใต้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ทั้ง 2 ชาติได้เปิดการเจรจาระดับสูงเพื่อแก้ไขปัญหาสตรีเพื่อการผ่อนคลายโดยเฉพาะ
ความเจ็บแค้นทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคที่ญี่ปุ่นเข้ายึดครองคาบสมุทรเกาหลีระหว่างปี 1910-1945 เป็นเหตุให้ความสัมพันธ์ระหว่างโตเกียวและโซลตกต่ำที่สุดในรอบหลายปี แต่เนื่องจากประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนทั้ง 2 ชาติในสัปดาห์หน้า จึงเกิดแรงกระตุ้นให้ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ต้องพยายามประสานรอยร้าว แม้ว่าแรงกดดันจากฝั่งพลเมืองทั้ง 2 ชาติจะยังไม่ลดลงก็ตาม
ญี่ปุ่นอ้างมาโดยตลอดว่า ประเด็นปัญหาที่เกี่ยวกับยุคอาณานิคมได้ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วระหว่างที่ญี่ปุ่นทำสนธิสัญญาฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตกับเกาหลีใต้ในปี 1965
เจ้าหน้าที่ซึ่งเผยข้อมูลต่อสำนักข่าวเกียวโด ระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะยอมกล่าวขออภัยอย่างเป็นทางการและจ่ายค่าชดเชยก็ต่อเมื่อเกาหลีใต้รับรองว่าปัญหาทั้งหมด “เป็นที่ยุติแล้ว” ทั้งนี้เพื่อไม่ให้กรุงโซลหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีก
ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นเคยจ่ายเงินชดเชยแก่หญิงเกาหลีที่ถูกเกณฑ์เป็นโสเภณีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านทางกองทุน เอเชียน วีเมนส์ ฟันด์ ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนที่รัฐบาลโตเกียวจัดตั้งขึ้นในปี 1995 และมีการดำเนินงานเรื่อยมาจนถึงปี 2007 ทว่าเหยื่อบางคนไม่ยอมรับเงิน เนื่องจากเห็นว่าไม่ใช่เงินชดเชยที่มาจากรัฐบาลญี่ปุ่นโดยตรง
นักประวัติศาสตร์กระแสหลักระบุตรงกันว่า มีสตรีเอเชียราว 200,000 คนที่ถูกเกณฑ์เป็นโสเภณีบำเรอกามแก่ทหารญี่ปุ่น ส่วนใหญ่เป็นหญิงชาวเกาหลี แต่ก็มีผู้หญิงจากชาติอื่นๆ ด้วย เช่น จีน, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และไต้หวัน
ปัจจุบัน สตรีเพื่อการผ่อนคลายชาวเกาหลียังคงมีชีวิตอยู่เพียง 55 คนเท่านั้น