เอเอฟพี - สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรฝากคำเตือนไปถึงผู้นำเกาหลีเหนือให้หยุดพฤติกรรมยั่วยุ ขณะที่นักวิจัยอเมริกันออกมาชี้ถึงความเสี่ยง “รังสีรั่วไหล” ภายในโรงงานนิวเคลียร์แห่งสำคัญของโสมแดง
สหรัฐฯ, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ได้มีถ้อยแถลงประณามการทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ และเรียกร้องอีกครั้งให้ผู้นำโสมแดงยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
ถ้อยแถลงจากรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า ทั้ง 3 ชาติ “เรียกร้องให้สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีหยุดการกระทำข่มขู่”
เกาหลีใต้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังสูงสุด หลังจากที่ผู้นำคิม จองอึน ออกมาเตือนเป็นนัยๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีเข้าขั้น “ร้ายแรงมาก” และกล่าวหาว่าปฏิบัติการซ้อมรบประจำปีระหว่างโซลกับวอชิงตันเป็นการ “เหยียบย่ำ” ไมตรีจิตของเกาหลีเหนือ
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยกลาง 2 ลูกซึ่งมีศักยภาพที่จะโจมตีดินแดนญี่ปุ่น ทั้งยังเปิดซ้อมรบด้วยกระสุนจริงบริเวณน่านน้ำพิพาทในทะเลเหลืองจนเกิดการยิงปะทะกับทหารเกาหลีใต้ นอกจากนี้โซลยังตรวจพบ “โดรนปริศนา” 3 ลำที่เชื่อว่าเกาหลีเหนือส่งมาสอดแนมฐานทัพตามแนวชายแดนอีกด้วย
สถาบันวิจัยสหรัฐฯ-เกาหลีแห่งมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ ซึ่งวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือจากภาพถ่ายดาวเทียม ออกมาวานนี้ (7) ว่า ระบบส่งน้ำที่โรงงานนิวเคลียร์เมืองยองบยอน (Yongbyon) ดูเหมือนจะเกิดปัญหาขัดข้อง สืบเนื่องจากฝนที่ตกหนักและอุทกภัยเมื่อช่วงหน้าร้อนปีที่แล้ว ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงที่สารกัมมันตรังสีจะรั่วไหล โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เตาปฏิกรณ์แบบน้ำมวลเบา (light water reactor) ตัวแรกของเกาหลีเหนือซึ่งใกล้จะสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว
นิค แฮนเซ็น นักวิจัยจากสถาบันแห่งนี้เขียนเตือนไว้ในบล็อก 38 North ว่า เกาหลีเหนือยังขาดประสบการณ์ในการใช้งานเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำมวลเบา “และหากน้ำที่ใช้หล่อเย็นเตาปฏิกรณ์ลดลงอย่างรวดเร็ว อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัยอย่างร้ายแรง”
เกาหลีเหนือคุ้นเคยกับเตาปฏิกรณ์ที่ใช้ผลิตพลูโตเนียมมากกว่า “แต่เนื่องจากไม่มีอาคารครอบเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ผนึกอากาศ (airtight) หากเกิดเหตุขัดข้องแม้เพียงเล็กน้อยรังสีก็อาจรั่วไหลได้” แฮนเซ็น ระบุ
บทวิเคราะห์ของสถาบันสหรัฐฯ-เกาหลี ถูกเผยแพร่ หลังจากที่ประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย แห่งเกาหลีใต้ ได้กล่าวเตือนก่อนหน้านี้ว่า โรงงานนิวเคลียร์ยองบยอนอาจเกิดภัยพิบัติร้ายแรงเหมือนโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลในยูเครน ซึ่งทำให้รัฐบาลเปียงยางไม่สบอารมณ์ และตอกกลับผู้นำหญิงโสมขาวว่า “พูดจาไร้สาระ”
บทความในบล็อก 38 North ชี้ว่าโรงงานนิวเคลียร์ยองบยอนมีขนาดเล็กกว่าเชอร์โนบิลมาก จึงไม่น่าจะเกิดหายนะเทียบเท่าโรงไฟฟ้าในยูเครนซึ่งเกิดระเบิดขึ้นเมื่อปี 1986 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 30 คน และอีกราว 2,500 คนต้องล้มตายในเวลาต่อมาเนื่องจากได้รับรังสีอันตราย
“อย่างไรก็ตาม กัมมันตภาพรังสีที่รั่วไหลออกสู่ชั้นบรรยากาศหรือแม่น้ำจะแพร่กระจายออกสู่ชุมชนเป็นบริเวณกว้าง... และยิ่งรัฐบาลเปียงยางขาดความโปร่งใสในเรื่องนี้ กระแสความหวาดกลัวจะยิ่งแผ่ลามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน” บทวิเคราะห์ดังกล่าวเตือน