เอเอฟพี - ผู้นำ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือชี้สถานการณ์ความขัดแย้งบนคาบสมุทรเกาหลีกำลังเข้าขั้น “ร้ายแรง” หลังทหารเกาหลีเหนือและใต้สาดกระสุนปืนใหญ่ตอบโต้กันบริเวณเขตพิพาททางทะเล ขณะที่รัฐบาลโสมแดงยังเตือนเป็นนัยๆ ว่าอาจจะทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งใหม่ในอีกไม่ช้า
ในการประชุมกับผู้นำกองทัพโสมแดงเมื่อวานนี้ (1) คิม กล่าวหาสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ว่า เหยียบย่ำไมตรีของเปียงยาง จนเป็นเหตุให้เกิดการกระทบกระทั่งกันขึ้น
“สถานการณ์เวลานี้เข้าขั้นร้ายแรงมาก” สำนักข่าวเคซีเอ็นเอซึ่งเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลเกาหลีเหนือ หยิบเอาคำพูดของ คิม มารายงานวันนี้ (2)
คิม ซึ่งมีฐานะเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพประชาชนเกาหลี (เคพีเอ) บอกกับนายทหารระดับสูงของเขาว่า แม้เปียงยางจะแสดงท่าทีขอคืนดีด้วยแล้ว แต่เกาหลีใต้และสหรัฐฯ กลับไม่ยอมยุติปฏิบัติการซ้อมรบประจำปี ซึ่งเกาหลีเหนือเชื่อว่าเป็นการซ้อม “รุกราน” ตน
“สหรัฐฯ และพวกพลังชั่วร้ายมองข้ามความใจกว้างและไมตรีจิตของเรา และยกระดับการซ้อมรุกรานเพื่อบ่อนทำลายสาธารณรัฐของเราในเชิงการเมือง โดดเดี่ยวเราในเชิงเศรษฐกิจ และบดขยี้เราด้วยกำลังทหาร”
“กองทัพและประชาชนเกาหลีเหนือจะไม่อดทนกับนโยบายก้าวร้าวของสหรัฐฯ และเราจะบดขยี้พวกมันให้เละ”
ถ้อยแถลงของผู้นำคิมดูเหมือนจะต้องการปลุกเร้าอารมณ์ผู้ฟังในประเทศเป็นหลัก ซึ่งบางคำพูดที่รุนแรงกว่านี้ เคซีเอ็นเอ ไม่ได้นำมาแปลเป็นภาษาอังกฤษ
เมื่อราว 1 เดือนก่อน ความสัมพันธ์เกาหลีเหนือและใต้มีทีท่าว่าจะดีขึ้น หลังมีการเปิดเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูง และจัดงานรวมญาติชาวเกาหลีที่เว้นไปนานกว่า 3 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้ครอบครัวที่พลัดพรากจากกันสมัยสงครามเกาหลีปี 1950-53 ได้มีโอกาสพบหน้ากันอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี สถานการณ์เริ่มเลวร้ายลงเรื่อยๆ ตั้งแต่นั้น โดยเกาหลีเหนือได้ยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยใกล้ลงทะเลหลายระลอกในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ และยังเหิมเกริมถึงขั้นทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยกลาง 2 ลูกที่สามารถโจมตีได้ถึงดินแดนของญี่ปุ่น
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้แถลงประณามการยิงขีปนาวุธพิสัยกลางของเกาหลีเหนือ โดยชี้ว่าเป็นการละเมิดคำสั่งยูเอ็นที่ห้ามไม่ให้เปียงยางทดลองขีปนาวุธอีก และยูเอ็นกำลังพิจารณาหาบทลงโทษ “ที่เหมาะสม”
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (31) เกาหลีเหนือได้เปิดฉากซ้อมรบกระสุนจริงใกล้น่านน้ำพิพาทในทะเลเหลือง ซึ่งหลังจากกระสุนปืนใหญ่ของโสมแดงลอยข้ามเส้นพรมแดนไป ทหารเกาหลีใต้ก็ได้ยิงตอบโต้ จนท้ายที่สุดกลายเป็นการสาดกระสุนปืนใหญ่ใส่กันหลายร้อยนัด
การยิงปะทะกันครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่โสมแดงประกาศเตือนอ้อมๆ ว่าอาจจะทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ “ชนิดใหม่” เร็วๆ นี้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจหมายถึงอาวุธที่ผลิตจากยูเรเนียม หรือไม่ก็หัวรบที่มีขนาดเล็กพอจะติดตั้งบนขีปนาวุธนำวิถีได้