xs
xsm
sm
md
lg

คำเตือน : ภาพหวาดเสียว: ผู้นำสูงสุดอิหร่านกร้าว “โครงการนิวเคลียร์ยังเดินหน้า-สงครามญิฮาดยังมีต่อจนกว่าอเมริกันคนสุดท้ายจะหมดไป”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - ผู้นำสูงสุด อยาตอลลาห์ อาลี คาเมเน (Ayatollah Ali Khamenei)กล่าวในที่ประชุมร่วมกับสมาชิกรัฐสภาอิหร่านในวันอาทิตย์ (25 พ.ค.) ว่า การเจรจากับชาติตะวันตกเรื่องโครงการนิวเคลียร์ได้สิ้นสุด และโครงการนี้จะยังเดินหน้าต่อไปรวมไปถึงสงครามญิฮาดเพื่อกำจัดสหรัฐฯ สำนักข่าวฟาร์นิวส์ของอิหร่านรายงาน

“กลุ่มชาวอิหร่านที่ต้องการให้มีการเจรจากับชาติตะวันตกและยอมจำนนต่อต่างชาติผู้กดขี่ และโยนความผิดให้อิหร่านนั้นในความเป็นจริงถือเป็นผู้ทรยศต่อชาติ” - ผู้นำสูงสุด อยาตอลลาห์ อาลี คาเมเน (Ayatollah Ali Khamenei) กล่าวเมื่อวานนี้ (25) 1 วันก่อนหน้าวันเมโมเรียลเดย์ของสหรัฐฯในวันจันทร์ (26) ที่รำลึกถึงทหารสหรัฐฯ ที่ได้สละชีวิตเพื่อชาติ

ทั้งนี้ อยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนได้ย้ำว่า หากรัฐบาลอิหร่านไม่มีความรู้สึกกระหายในการต่อสู้ รัฐบาลอิหร่านจะไม่สามารถเข้าสู่สถานะที่สูงขึ้นตามหลักศาสนาเพื่อจะเอาชนะชาติผู้กดขี่ได้ “การต่อสู้ต่อไปนั้นไม่ใช่นโยบายของสาธารณรัฐอิสลามที่ต้องการสนับสนุนสงคราม แต่เหตุผลสำหรับอิหร่านจากที่ต้องผ่านดินแดนที่เต็มไปด้วยโจรสลัด อิหร่านต้องติดอาวุธให้พร้อมเพื่อปกป้องตนเอง” ผู้นำสูงสุดอิหร่านกล่าว

และอยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนกล่าวเสริมต่อว่า “โลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยโจร และขโมยที่ปล้นกียรติยศ ศักดิศรี และศีลธรรมของมนุษย์ ซึ่งมีความรู้ ความร่ำรวย และอำนาจเป็นอาวุธ และภายใต้การเสแสร้งของมนุษยชาติ ทำให้สามารถกระทำผิดได้โดยง่าย และทรยศต่ออุดมการณ์ของมนุษย์โดยก่อสงครามขึ้นในส่วนต่างๆของโลก”

ทำให้มีสมาชิกรัฐสภาอิหร่านซักถามผู้นำสูงสุดว่า สงครามญิฮาดต้องดำเนินการยาวนานอีกเท่าใด อยาตอลลาห์ อาลี คาเมเน ได้ตอบกลับมาว่า “การต่อสู้และญิฮาดนั้นจะไม่มีที่สิ้นสุดเพราะปิศาจและกองกำลังส่วนหน้าของมันยังคงอยู่.....สงครามจะจบสิ้นก็ต่อเมื่อสังคมสามารถกำจัดกองกำลังของกลุ่มผู้กดขี่ที่มีสหรัฐฯเป็นผู้นำที่ได้ขยายอิทธิพลเข้าควบคุมจิตมนุษย์ ร่างกาย และความคิด ซึ่งทำให้ต้องมีการทุ่มเทอย่างสุดกำลังทั้งความยากลำบากและระยะเวลาเพื่อก้าวย่างของความสำเร็จ”

นอกจากนี้ ผู้นำสูงสุดอิหร่านยังได้อ้างถึงความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของอิหร่านว่า “ความก้าวหน้าทางวิทยาการของประเทศในช่วง 12 ปีล่าสุดไม่สามารถทำให้หยุดลงได้ไม่ว่าจะสถานการณ์ใดก็ตาม” โดยอยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนอ้างถึงความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่จะทำให้อิหร่านกลายเป็นผู้นำด้านนิวเคลียร์ของโลก

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาอิหร่านได้ฝ่าเส้นตายใหม่ รวมไปถึงการขยายการวิจัยและพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ สิทธิที่จะเพิ่มความเข้มข้นทางนิวเคลียร์ ("right to enrich") และจากความเป็นจริงที่โครงการขีปนาวุธอิหร่านนั้นไมได้อยู่บนโต๊ะเจรจาถึงแม้จะมีการคว่ำบาตรก็ตาม

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ IAEA ได้พบกับผู้แทนรัฐบาลอิหร่านในสัปดาห์ที่ผ่านมาที่กรุงเตหะรานเพื่อถกเรื่องการให้ความร่วมมือของรัฐบาลอิหร่านเพื่อหาทางออกกับปัญหาต่างๆในโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งถือเป็น 1 ใน 7 กระบวนการโปร่งใสที่อิหร่านได้รับปากที่จะทำตามก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม ในข้อตกลงเพื่อผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์กำหนดให้อิหร่านต้องจำกัดความเข้มข้นทางนิวเคลียร์เหลือเพียง 5% กับยูเรเนียมที่ยังอยู่ในโกดัง (สามารถผลิตระเบิดนิวเคลียร์ได้ถึง 6 ลูก) และเปลี่ยนให้ความเข้มข้นอยู่ในรูปอ็อกไซด์ที่ไม่เป็นอันตราย และอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ IAEAทำการตรวจสอบโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน

สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากอิหร่านและสหรัฐฯ ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงประวัติศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ในเดือนพฤศจิกายน 2013

หมายเหตุ รายงานข่าวนี้เขียนโดย เรซา คาห์ลิลี(Reza Kahlili) ซึ่งเป็นนามแฝงของอดีตเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการ CIAในปฎิบัติการ Revolutionary Guardsในอิหร่าน และเป็นเจ้าของรางวัลจากผลงานหนังสือ A Time to Betray นอกจากนี้ยังทำงานให้กับหน่วยงานมาตุภูมิและความมั่นคงสหรัฐฯ และยังนั่งในบอร์ดที่ปรึกษาในองค์การรากฐานประชาธิปไตยอิหร่าน (FDI)
อิหร่านยังคงมีการประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ และลงโทษโดยไม่มีการใต่สวน
นายทหารสหรัฐฯเดินด้วยเท้า 13 ไมล์เพื่อมายังสุสานทหารกล้าสหรัฐฯในวันเมโมเรียล เดย์ ปี 2013
กำลังโหลดความคิดเห็น