xs
xsm
sm
md
lg

รายงานเชิงลึกของรอยเตอร์อ้าง “คาเมเนอี” ผู้นำสูงสุดอิหร่าน มีทรัพย์สินในครอบครองกว่า “3 ล้านล้าน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ข้อมูลชี้ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เป็นผู้มีอำนาจควบคุมอาณาจักรทางธุรกิจที่มีมูลค่ากว่า 95,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 3 ล้านล้านบาท) ซึ่งมีมูลค่ามากกว่ายอดการส่งออกน้ำมันของอิหร่านทั้งปีรวมกัน ทั้งนี้ เป็นการเปิดเผยของทีมสืบสวนเชิงวิเคราะห์ของรอยเตอร์ที่รวบรวมข้อมูลเชิงลึกมานานกว่า 6 เดือน

ข้อมูลของทีมสืบสวนเชิงลึกของรอยเตอร์พบว่า องค์กรที่มีชื่อว่า “เซตาด” คือกุญแจสำคัญยิ่งต่อการครองอำนาจของผู้นำสูงสุดอิหร่าน โดยในเวลานี้ คาเมเนอี วัย 74 ปี ซึ่งก้าวขึ้นครองอำนาจในฐานะผู้นำสูงสุดคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของอิหร่าน ตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 1989 มีการถือครอง “หุ้น” และสินทรัพย์รูปแบบต่างๆ ในแทบทุกภาคอุตสาหกรรมของอิหร่าน รวมถึง ภาคการเงิน น้ำมัน โทรคมนาคม โรงงานผลิตยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่เว้นแม้แต่ ธุรกิจฟาร์มนกกระจอกเทศ

รายงานของรอยเตอร์ระบุว่า องค์กรเซตาดซึ่งกลายเป็นแหล่งรายได้สำคัญของผู้นำสูงสุดของอิหร่านนั้น แท้จริงแล้วเริ่มก่อตัวมาจากการเข้ายึดกิจการของประชาชน นักธุรกิจชาวอิหร่าน รวมถึง การยึดทรัพย์สินของชนกลุ่มน้อยที่มิใช่ชาวมุสลิมในประเทศ และชาวอิหร่านที่อาศัยอยู่ในต่างแดน โดยการยึดทรัพย์สินนั้น องค์กรเซตาดซึ่งมีอำนาจล้นเหลือจะใช้อิทธิพลของตนกดดันศาลและเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือสำคัญ

ข้อมูลซึ่งรอยเตอร์อ้างถึงระบุ เฉพาะในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเซตาด ซึ่งมีชื่อเต็มอย่างเป็นทางการในภาษาเปอร์เซียว่า “Setad Ejraiye Farmane Hazrate Emam” ได้เปิดประมูลอสังหาริมทรัพย์ในความครอบครองของตนเกือบ 300 รายการ และโกยเงินเข้าองค์กรของตนไปหลายล้านดอลลาร์ ทั้งที่วัตถุประสงค์ขององค์กรเซตาดแห่งนี้เมื่อเริ่มก่อตั้ง คือ การช่วยเหลือผู้ยากไร้และบรรดาทหารผ่านศึกเท่านั้น แต่ในยุคของคาเมเนอี องค์กรแห่งนี้กลับมุ่งเน้นการขยายอิทธิพลทางธุรกิจเพื่อเพิ่มพูนความมั่งคั่งให้กับบรรดาชนชั้นนำทางการเมือง

ขณะเดียวกัน เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐฯได้สั่งขึ้นบัญชีดำองค์กรเซตาดโดยระบุ องค์กรแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหน้าเพื่อซุกซ่อนทรัพย์สินในครอบครองของผู้นำอิหร่าน

อย่างไรก็ดี ทางกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน ตลอดจนทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงเตหะราน ยังไม่ออกมาให้ความเห็นใดๆต่อรายงานดังกล่าว มีเพียงการออกโรงตอบโต้ผ่านอีเมล์ของฮามิด วาเอซี ผู้อำนวยการใหญ่ด้านการประชาสัมพันธ์ของเซตาดที่ระบุว่า ข้อมูลจากรายงานของรอยเตอร์นั้น “ห่างไกลจากความเป็นจริง”และเต็มไปด้วยเรื่องโกหก
กำลังโหลดความคิดเห็น