เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านสร้างความฮือฮาครั้งใหญ่หลังมีการเปิดตัวหน้าเพจของเขาบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดัง “เฟซบุ๊ก” คาดอาจเป็นการส่งสัญญาณถึงการเปิดกว้าง ด้านการแสดงความคิดเห็นเพิ่มมากขึ้นในอิหร่าน
รายงานข่าวระบุว่า อยาตอลเลาะห์ อาลี ฮอสเซนี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน วัย 73 ปี ซึ่งครองอำนาจโดยใช้กฎเหล็กปกครองประเทศอย่างเข้มงวดมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 1989 ได้เปิดตัวหน้าเพจบนเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา และมีการโพสต์ภาพถ่ายของคาเมเนอี รวมถึง มีลิงก์ที่เชื่อมต่อไปยัง “อินสตาแกรม” และเว็บไซต์วิดีโอออนไลน์อย่าง “ยูทิวบ์” ด้วยเช่นกัน โดยล่าสุดมีผู้เข้าไป “กดไลค์” เพจของผู้นำสูงสุดอิหร่านแล้วมากกว่า 12,000 ครั้ง แม้จะเป็นที่ทราบกันดีว่า คาเมเนอีไม่ได้เป็นผู้ที่คอยอัพเดตความเคลื่อนไหวต่างๆ ด้วยตัวของเขาเองก็ตาม
ทันทีที่ข่าวการเปิดตัวเฟซบุ๊กของคาเมเนอีถูกเผยแพร่ออกไป ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างกว้างขวางเนื่องจากผู้นำสูงสุดอิหร่านได้ชื่อว่า เป็นผู้ที่ชูนโยบายต่อต้านเว็บไซต์ประเภทเครือข่ายสังคมออนไลน์มาโดยตลอด และยังออกคำสั่งมากมายที่เข้าข่ายจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน
ในอีกด้านหนึ่ง มีรายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวทางการทูตในกรุงเตหะรานที่ระบุว่า ผู้นำอิหร่านเล็งเห็นถึงภัยคุกคามจากเสรีภาพบนอินเทอร์เน็ต จึงต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางในการสื่อสารกับประชาชนให้มากขึ้นนับจากนี้ แทนการสกัดกั้นอย่างที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี เครือข่ายด้านสิทธิมนุษยชน และบรรดากลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลเตหะราน ซึ่งส่วนใหญ่มีฐานอยู่ภายนอกประเทศต่างออกมาโจมตีท่าทีล่าสุดของทางการอิหร่าน ในการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยระบุ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียง “ช่องทางใหม่” ที่ทางการอิหร่านหวังจะใช้ในการ “โฆษณาชวนเชื่อ” เท่านั้น นอกจากนั้นบรรดากลุ่มต่อต้านรัฐบาลอิหร่านเหล่านี้ยืนยันจะเคลื่อนไหวเพื่อกดดันให้เฟซบุ๊กสกัดกั้นหน้าเพจของผู้นำสูงสุดอิหร่าน และยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า ข้อคิดเห็นในเชิงลบจำนวนมากที่มีผู้โพสต์ลงในหน้าเพจดังกล่าวมักถูกลบภายในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งหมายความว่า ทางการอิหร่านยังไม่ได้ให้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างแท้จริงแก่ประชาชน