เอเอฟพี - ผู้นำสูงสุดของอิหร่านชี้ เตหะรานจำเป็นต้องมีเครื่องหมุนเหวี่ยงวัสดุนิวเคลียร์ (centrifuge) ถึง 190,000 ตัว หรือมากกว่าที่ชาติมหาอำนาจจะอนุญาตให้อิหร่านมีได้ตามข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ที่กำลังหารือกันอยู่ที่กรุงเวียนนาถึง “19 เท่า”
ถ้อยแถลงล่าสุดจาก อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ซึ่งถูกโพสต์ลงเว็บไซต์อย่างเป็นทางการในวันนี้ (8) ถือเป็นอีกครั้งที่ผู้นำสูงสุดอิหร่านยื่นมือเข้าแทรกแซงการเจรจานิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับมหาอำนาจ P5+1 ซึ่งประกอบด้วยอังกฤษ, จีน, ฝรั่งเศส, รัสเซีย, สหรัฐฯ บวกเยอรมนี
แม้กระบวนการพูดคุยที่ผ่านมาจะใช้วิธีเจรจาแบบปิด ทว่าท่าทีของ คอเมเนอี ครั้งนี้ถือเป็นการประกาศข้อเรียกร้องที่ชัดเจนที่สุดจากฝ่ายอิหร่าน
“พวกเขาต้องการให้เรายอมมีหน่วยปฏิบัติงานที่แยกจากกันไม่เกิน 10,000 หน่วย ซึ่งเทียบเท่ากับเครื่องหมุนเหวี่ยงวัสดุนิวเคลียร์รุ่นเก่า 10,000 ตัวที่เรามีอยู่แล้ว”
“เจ้าหน้าที่ฝ่ายเราจึงตอบกลับไปว่าเราต้องการ 190,000 ตัว อาจจะไม่ใช่วันนี้ แต่ภายใน 2-5 ปีอิหร่านจะต้องใช้จำนวนมากถึงขั้นนั้น”
ยูเรเนียมเสริมสมรรถนะสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หรือหากมีความบริสุทธิ์สูงมากๆ ก็อาจนำไปผลิตเป็น “แกนระเบิดนิวเคลียร์” ได้ ซึ่งถือเป็นประเด็นอ่อนไหวที่สุดในการเจรจาระหว่างอิหร่านและมหาอำนาจทั้ง 6
สื่ออเมริกันชี้ว่า สหรัฐฯ อาจยินยอมให้อิหร่านครอบครองเครื่องหมุนเหวี่ยงวัสดุนิวเคลียร์ได้ระหว่าง 2,000-4,000 ตัว
เมื่อเดือนที่แล้ว โลรองต์ ฟาเบียส รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ฝรั่งเศสยอมให้อิหร่านมีเครื่องหมุนเหวี่ยงวัสดุนิวเคลียร์ “หลายร้อยตัว” แต่ทางอิหร่านกลับเรียกร้องที่จะมี “เป็นแสนๆ”
ทั้งนี้ หากการทำข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์อิหร่านฉบับสมบูรณ์สำเร็จลุล่วงภายในกำหนดเส้นตายวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ ก็จะช่วยยุติความกังวลที่นานาชาติมีต่อกิจกรรมนิวเคลียร์ของอิหร่าน และชาติตะวันตกก็จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเพื่อตอบแทนที่อิหร่านให้ความร่วมมือ
ท่ามกลางการขยายอิทธิพลของกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ในอิรักและสงครามกลางเมืองซีเรียที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปี ข้อตกลงลักษณะนี้น่าจะช่วยให้ความสัมพันธ์อิหร่านกับโลกตะวันตกเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ในยามที่ตะวันออกกลางเข้าสู่ภาวะหน้าสิ่วหน้าขวาน
มหาอำนาจทั้ง 6 ต้องการเห็นกิจกรรมนิวเคลียร์ของอิหร่านลดลงอย่างฮวบฮาบ เพื่อให้มั่นใจว่าเตหะรานจะไม่มีศักยภาพพอที่จะผลิตอาวุธทำลายล้างสูงได้ และนั่นหมายความว่าอิหร่านก็จะต้องลดการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่มีเครื่องหมุนเหวี่ยงวัสดุนิวเคลียร์เป็นกลไกสำคัญ
อย่างไรก็ดี รัฐบาลอิหร่านยืนกรานว่าพวกเขาพัฒนาเทคโนโลยีในการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมมาไกลเกินกว่าจะถอยหลังกลับ และต้องการขยายโครงการต่อไปเพื่อผลิตเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในอนาคต
กำหนดเส้นตายในการบรรลุข้อตกลงฉบับสมบูรณ์อาจถูกขยายต่อไปอีก 6 เดือน ซึ่งนักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายก็น่าจะกำลังเจรจาเรื่องนี้อยู่