เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ทางการแดนจิงโจ้ระบุวันนี้ (15 พ.ค.) ว่าเมลเบิร์นกำลังใส่เกียร์เดินหน้าสู่การเป็นเมืองที่ห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะโดยเด็ดขาดแห่งแรกของโลก โดยสิงอมควันทุกคนจะต้องใช้ห้องที่ถูกออกแบบมาไว้สำหรับสูบบุหรี่โดยเฉพาะเท่านั้น
ริชาร์ด ฟอสเตอร์ เทศมนตรีเมืองเมลเบิร์นกล่าวว่า หลังทดลองโครงการนำร่องที่คอสเวย์ ถนนอันพลุกพล่านที่สุดสายหนึ่งของเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของออสเตรเลีย ก็พบว่าได้รับเสียงสนับสนุนอย่างล้นหลามจากผู้ที่ต้องการให้ขยายพื้นที่ห้ามสูบบุหรี่
ฟอสเตอร์กล่าวกับสถานีวิทยุแฟร์แฟกซ์ว่า “ผมคิดว่าการทำให้เมลเบิร์นกลายเป็นหนึ่งในเมืองปลอดบุหรี่แห่งแรกของโลก จะช่วยดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาที่นี่ได้แน่นอน”
“ผมคิดว่า จะต้องมีผู้สนับสนุนกระบวนการขยายพื้นที่ห้ามสูบบุหรี่อย่างท่วมท้น เมื่อพิจารณาจากความสำเร็จที่เราได้รับบนถนนคอสเวย์มาแล้ว”
ตามแผนการนี้ คนเดินถนน ผู้ที่ออกมากินข้าวนอกบ้าน และแม้กระทั่งแรงงานก่อสร้างจะถูกห้ามไม่ให้สูบบุหรี่ในย่านเศรษฐกิจใจกลางเมือง หากพวกเขาไม่ได้เข้าไปบริการห้องที่จัดไว้เพื่อสิงอมควันโดยเฉพาะ
เช่นเดียวกับในอีกหลายประเทศ แดนจิงโจ้ห้ามไม่ให้สูบบุหรี่ในอาคารสาธารณะ เช่น บาร์ และร้านอาหาร
เมื่อปี 2011 นิวยอร์กได้พยายามต่อต้านการสูบบุหรี่ ด้วยการสั่งห้ามสูบในพื้นที่กลางแจ้งส่วนใหญ่ ขณะที่เมืองอื่นๆ ทั่วโลกก็ออกข้อห้ามไม่ให้ประชาชนสูบบุหรี่ตามสวนสาธารณะและชายหาด
นายกเทศมนตรี โรเบิร์ต ดอยล์ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆ ก็ตาม ควรมุ่งส่งเสริมให้เมลเบิร์นกลายเป็นเมืองที่ห้ามสูบบุหรี่โดยเด็ดขาดภายในปลายปี 2016
เขากล่าวกับหนังสือพิมพ์ เฮอรัลด์ ซันว่า “หากเราสามารถทำให้ผู้ประกอบการค้าและกิจการต่างๆ เห็นว่า การห้ามสูบบุหรี่จะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเขา อย่างที่เราเคยพิสูจน์ให้เจ้าของผับและร้านอาหารเห็นมาแล้ว ..ในที่สุดสิ่งที่เราพยายามก็จะประสบความสำเร็จ”
องค์กรต่อต้านการสูบบุหรี่ “ควิต วิกตอเรีย” และมูลนิธิการกุศล “ฮาร์ต” ระบุในคำแถลงว่า เป็นความคิดที่เยี่ยมยอดมาก แต่ก็ย้ำเตือนว่าอาจนำมาบังคับใช้ได้ยาก
เครก ซินแคลร์ ผู้อำนวยการบริหารองค์การ ควิต วิกตอเรียชี้ว่า “การห้ามสูบบุหรี่ในย่านธุรกิจใจกลางเมืองโดยเด็ดขาด อาจเป็นกฎที่บังคับใช้ได้ยากหรือไม่สามารถนำมาปฏิบัติได้จริง และพื้นที่สำหรับสูบบุหรี่โดยเฉพาะก็อาจมีสภาพแออัด เนืองแน่นไปด้วยผู้คน”
เขากล่าวว่า การห้ามสูบบุหรี่ในร้านอาหารและร้านขายสุรามาทั่วประเทศนั้นเป็นก้าวต่อไปที่น่าสนใจ
ทั้งนี้ ออสเตรเลียนับเป็นประเทศที่มีกฎหมายควบคุมยาสูบที่เข้มงวดที่สุดในโลก โดยบริษัทถูกบังคับให้จัดจำหน่ายบุหรี่ในบรรจุภัณฑ์สีดำปลอด ที่ปรากฏภาพภัยร้ายของบุหรี่ที่มีต่อสุขภาพขนาดใหญ่
อัตราสิงอมควันในออสเตรเลียได้ลดฮวบลงจากราว 50 เปอร์เซ็นต์ในช่วงทศวรรษ 1950 ลงมาอยู่ที่ 15 เปอร์เซ็นต์ในตอนนี้ โดยรัฐบาลมุ่งหมายจะลดจำนวนนักสูบลงให้เหลือ 10 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2018