เป็นเรื่อง! คนดังทั่วโลกแห่ “คว่ำบาตร” เครือโรงแรมของกษัตริย์บรูไนตอบโต้ “กฎหมายชารีอะห์”

เอเอฟพี – บุคคลดังทั่วโลก รวมถึง ริชาร์ด แบรนสัน เจ้าของอาณาจักรธุรกิจกลุ่มเวอร์จิน (Virgin) พร้อมใจคว่ำบาตรเครือโรงแรมหรูของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน เพื่อประท้วงที่รัฐบาลบรูไนนำบทลงโทษตามกฎหมายอิสลาม (ชารีอะห์) มาประกาศใช้

สมเด็จพระราชาธิบดี ฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียะห์ แห่งบรูไนดารุสสลาม ทรงมีพระราชดำรัสเมื่อวันพุธที่แล้ว (30) ว่าจะทรงผลักดันกฎหมายชารีอะห์ ซึ่งกำหนดบทลงโทษผู้ก่ออาชญากรรมประเภทต่างๆ ไว้อย่างรุนแรง เช่น การปาหินจนตาย

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แบรนสัน ประกาศว่า พนักงานเวอร์จินจะตอบโต้การตัดสินใจของรัฐบาลบรูไนด้วยการไม่เข้าพักโรงแรมในเครือ ดอร์เชสเตอร์ คอลเลกชัน ซึ่งรวมถึงโรงแรมดอร์เชสเตอร์ กรุงลอนดอน และโรงแรมเบเวอร์ลีย์ฮิลส์ นครลอสแองเจลิส

“พนักงานในเครือเวอร์จิน และสมาชิกในครอบครัวของพวกเรา จะไม่เข้าพักโรงแรมในเครือดอร์เชสเตอร์ จนกว่าสุลต่านแห่งบรูไนจะทรงยอมรับสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานเสียก่อน” มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์

บุคคลผู้มีชื่อเสียงอื่นๆ ที่ตัดสินใจบอยคอตเครือโรงแรมดอร์เชสเตอร์ด้วย ได้แก่ นักแสดงตลกชื่อดังชาวอังกฤษ สตีเฟน ฟราย, พิธีกรชาวอังกฤษ ชารอน ออสบอร์น และนักแสดงตลกชาวอเมริกัน เอลเลน ดีเจเนเรส

ด้านมูลนิธิ เฟมินิสต์ เมอจอริตี ในสหรัฐฯ ก็ประกาศเลิกใช้โรงแรมเบเวอร์ลีย์ฮิลส์เป็นสถานที่จัดพิธีมอบรางวัล โกลบอล วีเมนส์ ไรต์ส อวอรด์ส ประจำปีนี้แล้ว

ทั้งนี้ มีรายงานว่า เครือโรงแรม ดอร์เชสเตอร์ คอลเลกชัน เป็นกิจการของสำนักลงทุนแห่งบรูไน (Brunei Investment Agency) ซึ่งเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลังบรูไน

เจ้าหน้าที่รัฐบาลบรูไนยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ขณะที่กลุ่มบริษัท ดอร์เชสเตอร์ คอลเลคชัน ก็ไม่ตอบคำถามใดๆ เช่นกัน

การตัดสินพระทัยขององค์สุลต่านทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งในสื่อสังคมออนไลน์บรูไน รวมถึงสำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่ออกมาเตือนผลกระทบของการประกาศใช้กฎหมายชารีอะห์

อย่างไรก็ตาม สมเด็จพระราชาธิบดีทรงยืนยันว่า กฎหมายชารีอะห์มีความจำเป็นต่อการค้ำชูศาสนาอิสลาม และสกัดกั้นค่านิยมจากภายนอก

“เราไม่เคยคิดร้ายต่อผู้อื่น และเราก็ไม่ได้ขอให้พวกเขามายอมรับหรือเห็นด้วยกับเรา แต่ขอให้พวกเขาเคารพเรา เหมือนเช่นที่เราเคารพพวกเขาบ้างก็พอ” สมเด็จพระราชาธิบดี ฮัสซานัล โบลเกียะห์ ตรัสในพิธีประกาศใช้กฎหมายชารีอะห์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ในระยะเริ่มต้น รัฐบาลบรูไนตั้งระวางโทษปรับหรือจำคุกสำหรับการกระทำผิดหลักศาสนา เช่น พฤติกรรมที่ขัดต่อศีลธรรม, การที่ชายมุสลิมไม่ไปละหมาดวันศุกร์ หรือการตั้งครรภ์นอกสมรส เป็นต้น

ระยะที่สองจะเป็นบทลงโทษสำหรับผู้ก่ออาชญากรรม เช่น การปล้นหรือลักขโมยทรัพย์สิน ซึ่งมีระวางโทษตัดมือตัดเท้าหรือโบย โดยจะเริ่มบังคับใช้ภายในปลายปีนี้

สำหรับบทลงโทษขั้นสูงสุด คือ การปาหินจนตายสำหรับผู้ที่ทำความผิดฐานรักร่วมเพศหรือคบชู้ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปลายปีหน้า