“อิรัก” เปิดคูหาเลือกตั้งครั้งแรกหลัง “สหรัฐฯ” ถอนทหารกลับ ท่ามกลางความรุนแรงเกิดขึ้นทั่วประเทศ

เอเจนซีส์ - การรักษาความปลอดภัยมีขึ้นทั่วอิรักในวันนี้ (30) ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งทั่วไปเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นนับตั้งแต่สหรัฐฯได้ถอนกำลังกลับออกไปท่ามกลางความรุนแรงที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ

นายกรัฐมนตรีอิรัก นูรี อัลมาลิกี (Nouri al-Maliki) สั่งการให้ปิดน่านฟ้าของประเทศ ปิดตึกที่ทำการกระทรวงของรัฐ และประกาศให้มีเคอร์ฟิวช่วงการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาอิรัก หลังจากที่กลุ่มกบฏรัฐอิสลามแห่งอิรักและดินแดนตะวันออก (ISIL) ได้ออกโรงขู่ที่จะขัดขวาางการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยระเบิดฆ่าตัวตายและคาร์บอมบ์

ซึ่งการจัดเลือกตั้งหนนี้ถือเป็นการทดสอบครั้งใหญ่ของหน่วยงานความมั่นคงอิรักนับตั้งแต่สหรัฐฯได้ถอนทหารกลับในเดือนธันวาคม 2011

ที่ผ่านมากลุ่มกบฏ ISIL ได้ท้าทายรัฐบาลของอัลมาลิกีด้วยระเบิดฆ่าตัวตาย 3 ครั้งซ้อน ในการรณรงค์หาเสียงสัปดาห์ที่ผ่านมา คร่าชีวิตชาวอิรักไปถึง 37 คน และมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 80 คน การโจมตีครั้งนั้นถือเป็นการสั่นคลอนความมั่นคงในการพิทักษ์การลงคะแนนเสียงของเจ้าหน้าที่อิรัก

และในปีนี้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทั่วอิรักเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่ช่วงปี 2006-2007 ที่ชาวอิรักหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตในสงครามขัดแย้งทางศาสนา และเป็นผลทำให้อิรักเกือบเข้าใกล้สงครามกลางเมือง

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ได้วิเคราะห์ว่า กลุ่มกบฏ ISIL และกลุ่มอื่นๆ ที่กำลังต่อสู้กับรัฐบาลสายชีอะห์ของอิรักนั้นกำลังยั่วยุความรุนแรงทางด้านเชื้อชาติให้เกิดอีกครั้งเพื่อสั่นคลอนความมั่นคงของประเทศ จากรายงานของยูเอ็นได้พบว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีพลเรือนชาวอิรักเกือบ 1,700 คน เสียชีวิตลงใน 3 เดือนแรก

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์และนักการทูตต่างลงความเห็นว่า อัลมาลิกี วัย 63 ปี ยังมีโอกาสดีที่จะสามารถกลับเข้าสู่อำนาจอีกครั้ง แต่เขาต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้ทางการเมืองที่ยากลำบากถึงแม้อัลมาลิกีจะยังไม่มีคู่ต่อสู้ที่ชัดเจนในตำแหน่งผู้นำประเทศ

และรัฐบาลผสมแสดงถึงลักษณะการเมืองพิเศษของอิรักและสัดส่วนตัวแทนเลือกตั้งในระบบ ทั้งนักวิจารณ์ยังได้ระบุต่อว่า หากอัลมาลิกีกลับเข้ามาสู่อำนาจสูงสุดในรัฐบาลผสมอิรักอีกครั้ง จะเป็นผลทำให้อิรักมีรัฐบาลที่เอียงค้างไปทางชีอะห์มากกว่าที่เคย

ถนนหนทางในกรุงแบกแดดว่างเปล่าจากการที่เป็นวันหยุดแห่งชาติค่ำก่อนวันเลือกตั้ง อีกทั้งประชาชนต่างเก็บตัวอยู่แต่ภายในบ้านเนื่องจากเกรงถึงความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น และพบเห็นด่านตรวจของตำรวจและทหารผุดขึ้นทั่วเมือง รวมไปถึงมีทหารเดินลาดตระเวนด้วยความระวังเป็นพิเศษ

มีชาวอิรักจำนวนไม่มากนักที่ยังอยู่ในกรุงแบกแดดเมื่อวานนี้ (28) ได้แสดงความวิตกกับสื่ออัลญาซีเราะห์ต่อการรักษาความปลออดภัย เพราะเขาเหล่านั้นตั้งใจเดินเข้าคูหาเพื่อใช้สิทธิ

“เรามีปัญหากับทุกอย่าง” ดาฟาร์ ซูแฮร์ ฮาเหม็ด วิศวกรชาวอิรักวัย 39 ปี ให้สัมภาษณ์ในคาเฟที่เขตแมนซัวร์ กล่าว และเสริมว่า “ดังนั้น ผมจึงมองในแง่ดีว่า ชาวอิรักส่วนใหญ่จะออกมาลงคะแนนเพื่อเฟ้นหารัฐบาลที่ดีที่สุดของพวกเขา”

การรณรงค์หาเสียงในอิรักนั้นมีสีสันที่มาพร้อมกับความรุนแรง การคอร์รัปชัน น้ำมัน และความยากจนเป็นหลัก ในกรุงแบกแดดและเมืองต่างๆ มีโปสเตอร์หาเสียงปิดอยู่ไปทั่ว และมีการปราศรัยตอบโต้ระหว่างผู้สมัครอยู่เป็นระยะๆ และบางครั้งยังมีการโต้ผ่านหน้าจอทีวี

ซึ่งคูหาเลือกตั้งในอิรักจะเปิดให้ลงคะแนนเวลา 7.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ประชาชนที่มีสิทธิ์ร่วม 2.2 ล้านคนจะลงคะแนนที่คูหาจำนวน 7,964 แห่งทั่วประเทศ