เอเอฟพี - มอสโกรับปากวอชิงตันว่าจะไม่ใช้กำลังทหารบุกยูเครน กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯแถลงหลังจากสหรัฐฯและยุโรปได้ประกาศเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจากวิกฤตยูเครน ในขณะที่ในวันนี้ (29) ญี่ปุ่นได้คว่ำบาตรรัสเซียด้วยการปฏิเสธออกวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย 23 รายเดินทางเข้าประะเทศจากวิกฤตยูเครน
จากเหตุที่ชาติมหาอำนาจตะวันตกได้ตกลงเพิ่มการคว่ำบาตรรอบใหม่กับรัสเซียในเหตุการณ์วิกฤตยูเครนตะวันออกล่าสุดนับตั้งแต่ยุคสงครามเย็นเป็นต้นมา ทางทำเนียบขาวประกาศในวันจันทร์ (28) ขยายการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัสเซียเพิ่มขึ้นอีก 7 คน และรวมถึงอีก 17 บริษัทที่ใกล้ชิดกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย
กลุ่มพสหภาพยุโรปกล่าวว่า ได้เพิ่มอีก 15 รายชื่อ ในขณะที่แคนาดาเพิ่ม 9 รายชื่อ และธนาคารอีก 2 แห่งในการขยายมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งสถานการณ์ในยูเครนที่ตึงเครียดปะทุเมื่อนายกเทศมนตรีหนุนมอสโกถูกลอบสังหารจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และกลุ่มแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียสามารถยึดเมืองได้เพิ่มขึ้นอีก 1 เมือง
ทางเพนตากอนกล่าวว่า รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ชัค ฮาเกล ได้ต่อสายตรงถึงรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย เซอร์เก ชอยกู และเปิดเผยว่า “ซอยกูได้ให้คำมั่นว่ากองกำลังรัสเซียจะไม่บุกเข้ายูเครนแน่นอน”
นอกจากนี้โฆษกเพนตากอน พลเรือตรี จอห์น เคอร์บี แถลงว่า รัฐมนตรีกลาโหมทั้ง 2 ชาติได้ปรึกษาหารือในขอบเขตของปัญหาที่ดยงถึงสถานการณ์ในยูเครน ซึ่งฮาเกิลได้ขอให้รัสเซียแสดงเจตุจำนงที่เด่นชัดต่อภาคตะวันออกของยูเครน
นอกจากนี้ ฮาเกิลยังกระตุ้นให้รัสเซียลดระดับอิทธิพลที่มีภายในยูเครน พร้อมเตือนว่าหากยังคงก้าวร้าวอยู่ต่อไป รัสเซียอาจต้องถูกโดดเดี่ยวซึ่งจะมีผลทำให้รัสเซียได้รับความกดดันทางด้านการทูตและเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น เคอร์บีกล่าว
นอกจากนี้ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯยังขอให้รัสเซียช่วยหาทางปล่อยตัวกลุ่มผู้สังเกตการณ์จาก OSCE ที่ถูกจับเป็นตัวประกันในยูเครนตะวันออกให้เป็นอิสระ
และทางซอยกูได้ตอบข้อซักถามทางโทรศัพท์ว่า ต้องการให้สหรัฐฯลดระดับลงในวิกฤตยูเครน ซึ่งทางเครมลินได้ลั่นวาจาไว้ว่า จะตอบโต้ทางวอชิงตันอย่างเจ็บแสบที่สุดหากมีการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรขึ้น
ผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย Sergei Ryabkov ได้เผยกับสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ว่า “ทางมอสโกรู้สึกรังเกียจในการกระทำของสหรัฐฯ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การตัดสินใจสหรัฐฯไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงแต่อย่างใด”
และในวันอังคาร (29) ญี่ปุ่นประกาศงดออกวีซ่าให้นักท่องเที่ยวรัสเซียจำนวน 23 ราย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกดดันรัสเซียในวิกฤตยูเครนตะวันออก แต่ทว่าทางกระทรวงต่างประเทศแดนอาทิตย์อุทัยไม่ได้ระบุถึงรายละเอียดของผู้ถูกปฏิเสธวีซ่า ซึ่งเปิดเผยเพียงว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับความเป็นอธิปไตยและอาณาเขตของยูเครน
นอกจากนี้สื่อท้องถิ่นญี่ปุ่นเปิดเผยว่า มีเจ้าหน้าที่รัสเซียบางคนมีรายชื่อบนแบล็กลิสต์เดินทางเข้าญี่ปุ่น ซึ่งการประกาศครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯและชาติตะวันตกได้เพิ่มมาตรการกดดันทางเศรษฐกิจกับรัสเซีย
“ญี่ปุ่นเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนปฏิบัติอย่างระมัดระวังด้วยความมีสติและรับผิดชอบ” ฟูมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น กล่าวผ่านแถลงการณ์ และแถลงเสริมต่อว่า “ทางญี่ปุ่นหวังอย่างจริงใจว่า สถานการณ์ในยูเครนจะสามารถเป็นปกติจากช่องทางเจรจาทางการทูต”
ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ญี่ปุ่นเคยกล่าวว่าจะระงับการเจรจากับรัสเซียเรื่องผ่อนคลายเงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวรัสเซียชั่วคราว และจะยังไม่เริ่มพูดถึงช่องทางการลงทุนใหม่
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นได้กลายเป็นอีกประเทศที่ร่วมจับมือกับสหรัฐฯและสหภาพยุโรปในการใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อลงโทษรัสเซียตั้งแต่ทางมอสโกได้ผนวกไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย