โอบามาเตรียม “คว่ำบาตร” มอสโกหนัก ขณะกบฏฝักใฝ่รัสเซีย “ยึดเมือง” ยูเครนอีกแห่ง

เอเอฟพี - ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ แถลงวันนี้ (28 เม.ย.) ว่าสหรัฐฯ กำลังเตรียมเผยโฉมมาตรการคว่ำบาตรรูปแบบใหม่ที่จะนำมาประกาศใช้กับรัสเซีย จากการที่ชาตินี้ละเมิดข้อตกลงที่ระบุว่าจะปลดชนวนวิกฤตยูเครน ในเวลาที่กลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียเข้ายึดเมืองอีกแห่งทางภาคตะวันออกของยูเครน

ในการแถลงที่ฟิลิปปินส์ โอบามากล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวจะรวมถึงการห้ามส่งออกสินค้าไฮเทค เพื่อเป็นการเพิ่มแรงกดดันให้แก่ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งถูกกล่าวโทษว่าเป็นผู้ก่อให้เกิดวิกฤตระหว่างยุโรปตะวันตกและยุโรปตะวันออกครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่พ้นยุคสงครามเย็น

บรรดาเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป (อียู) มีกำหนดร่วมหารือกันที่กรุงบรัสเซลล์ เพื่อยกระดับมาตรการที่ยุโรปจะใช้คว่ำบาตรรัสเซีย โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามประสานความร่วมมือต่อต้านกรุงมอสโกระดับโลก

ในเวลานี้ พื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนกำลังประสบความตึงเครียดในระดับร้อนแรง ขณะที่กลุ่มติดอาวุธบุกเข้าโจมตีศาลาเทศบาล และสถานีตำรวจในเมืองคอสเตียนตืยนิฟกี ซึ่งถือเป็นการก่อเหตุโจมตีระลอกล่าสุดของกบฏทางภาคตะวันออกของประเทศ

นอกจากนี้ กลุ่มกบฏยังได้ออกมาปฏิเสธที่จะปล่อยตัว กลุ่มเจ้าหน้าที่จากองค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) ภายหลังที่กบฏกลุ่มนี้แนะนำเจ้าหน้าที่ผ่านสื่อในฐานะ “เชลยสงคราม” ซึ่งเยอรมนีกล่าวว่าเป็นการแสดงท่าที “ต่อต้าน”

ในเวลาเดียวกัน ภัยคุกคามจากการรุกรานเต็มรูปแบบในอดีตชาติสมาชิกสหภาพโซเวียตกำลังเป็นที่จับตามอง โดยมีกองทหารรัสเซียหลายหมื่นนายเคลื่อนพลอยู่ตามแนวชายแดน และนายกรัฐมนตรีของยูเครนได้กล่าวเตือนว่า เป็นความพยายามเปิดฉาก “สงครามโลกครั้งที่สาม”

ในช่วงสุดท้ายของการเดินทางเยือน 4 ชาติเอเชีย โอบามาได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรระดับใหม่เพื่อลงโทษรัสเซีย ภายหลังที่มอสโกประกาศซ้อมรบบริเวณพรมแดนยูเครน ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่าเป็นการแสดงท่าที “ยั่วยุ”

เขากล่าวว่า วอชิงตันจะเผยโฉมรายนามของ “บุคคลและบริษัท” ซึ่งจะถูกคว่ำบาตรเพื่อสร้างแรงกดดันให้แก่ปูติน และเศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำของรัสเซีย

เขากล่าวเสริมว่า มาตรการยังคงพุ่งเป้าไปที่ “การส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีระดับสูงให้แก่รัสเซีย” ซึ่งเขากล่าวว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างมอสโกและชาติตะวันตกในตอนนี้

การประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้เป็นการตอบโต้ที่รัสเซียไม่ยอมบังคับใช้ข้อตกลง ซึ่งประเทศนี้ลงนามที่นครเจนีวา เมื่อวันที่ 17 เมษายน เพื่อรับรองว่าจะปลดชนวนขัดแย้งในยูเครน โดยโอบามากล่าวว่ารัสเซียไม่ได้แตะต้องข้อตกลงฉบับนี้แม้แต่น้อย

โอบามากล่าวว่า เป้าหมายของมาตรการคว่ำบาตรไม่ใช่การ “พยายามเอาชนะปูติน เป็นการส่วนตัว” แต่เพื่อ “กระตุ้นให้เขาลงมือแก้ไขวิกฤตการณ์ครั้งนี้ (ด้วยวิธีการทางทูตจริงๆ) ไม่ใช่เอาแต่พูดแล้วก็พูด”

กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกจี 7 ได้ออกมาให้คำมั่นว่า จะร่วมมือในปฏิบัติการครั้งนี้ และมีความคาดหมายกันว่าบรรดานักการทูตจะขยายขอบเขตมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียร่วมกัน ในการประชุมซึ่งจะมีขึ้นภายหลังวันนี้ (28)

ทั้งนี้ ชาติตะวันตกได้ระงับวีซา และห้ามไม่ให้สมาชิกสำคัญในแวดวงของประธานาธิบดีปูติน เดินทางเข้าประเทศ ทั้งยังประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรกับธนาคารชั้นนำ

อย่างไรก็ตาม บางส่วนยังหวั่นเกรงกันว่า เศรษฐกิจรัสเซียอาจฉุดให้เศรษฐกิจโลกตกต่ำลงอีกครั้ง ภายหลังที่เพิ่งเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากวิกฤตหนี้ยูโรโซน

สิ่งที่ตอกย้ำความกังวลในเรื่องนี้ คือหุ้นของญี่ปุ่นซึ่งปรับตัวลดลงเกือบ 1 เปอร์เซ็นต์ และเงินเยนซึ่งถูกมองว่าเป็นที่ยึดเหนี่ยวในยามสถานการณ์ไม่แน่นอน กลับแข็งค่าขึ้น

แม้กระนั้น มีฮาอิล โฮดอร์คอฟสกี อดีตนักธุรกิจผู้มีอิทธิพลได้ชี้ว่า มาตรการคว่ำบาตรจะ “ยังไม่ส่งผล (ต่อเศรษฐกิจรัสเซีย) ในเร็วๆ นี้” แต่ต้องใช้เวลา 3-4 ปี จึงจะสามารถทำให้ปูตินเป็นเดือดเป็นร้อนขึ้นมาจริงๆ