เอเอฟพี - ยามชายฝั่งของเกาหลีใต้ในวันจันทร์(28)เผยแพร่คลิปกัปตันเรือเฟอร์รีมรณะกำลังตะเกียกตะกายเอาตัวรอด ทิ้งผู้โดยสารอีกหลายร้อยชีวิตติดอยู่ภายใน ความเคลื่อนไหวที่คาดหมายว่าจะเรียกเสียงด่าทออย่างดุเดือดต่อลูกเรือ ท่ามกลางความพยายามรวบรวมหลักฐานและขยายผลสืบสวนของอัยการ
ในภาพเหตุการณ์บางส่วนของวิดีโอฉบับเต็มความยาว 10 นาที ที่ถ่ายไว้โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยและออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ YTN เป็นภาพของกัปตัน อี จุน-ซ็อก วัย 69 ปี ที่สวมเพียงเสื้อและกางเกงบ็อกเซอร์ พยายามหลบหนีเร่งรีบออกจากเรือที่ค่อยๆเอียง ก่อนที่มันจะอัปปางเมื่อวันที่ 16 เมษายน
ลูกเรือที่รอดชีวิตทั้ง 15 คนซึ่งมีส่วนต้องรับผิดชอบต่อโศกนาฏกรรมดังกล่าว เวลานี้อยู่ในการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่และถูกแจ้งข้อหาต่างๆนานา อย่างเช่นประมาทและทอดทิ้งผู้โดยสาร ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่าครอบครัวเหยื่อต่อปฏิกิริยาตอบสนองของเจ้าหน้าที่ต่อหายนะครั้งนี้ โดยเฉพาะกรณีที่เข้าไปยังตัวเรือล่าช้า ปล้นโอกาสสุดท้ายของเหยื่อต่อการมีชีวิตรอด
วิดีโอนี้เรียกเสียงถากถากอย่างดุเดือดบนโลกสังคมออนไลน์ โดยหนึ่งในผู้ใช้บอกว่า "ดูกัปตันกำลังหนีออกจากเรือในสภาพไม่สวมกางเกงซิ น่าเวทนาชะมัด ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะไม่คิดถึงเด็กๆทุกคนที่ติดอยู่ข้างในนั้น ขณะตนเองรีบหนีออกมาเพื่อเอาชีวิตรอด"
เรือเฟอร์รีเซวอล ระวางขับน้ำ 6,825 ตัน ประสบอุบัติเหตุอับปางลงกลางทะเลเมื่อเช้าวันที่ 16 เมษายน ขณะเกิดเหตุมีผู้โดยสารและลูกเรืออยู่ทั้งสิ้น 476 คน โดย 325 คนเป็นนักเรียนชั้นมัธยมที่กำลังจะเดินทางไปทัศนศึกษาที่เกาะเชจู
ทีมประดาน้ำกำลังพยายามค้นหาร่างไร้วิญญาณใต้เรือเซวอลที่พลิกคว่ำ อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ต้องพบกับความผิดหวังเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน สืบเนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้ายและเป็นอันตราย โดยแม้ว่าจะปฏิบัติการมากกว่า 60 ชั่วโมงนับตั้งแต่วันศุกร์(25)ที่ผ่านมา ทว่าตั้งแต่นั้นก็พบศพเพิ่มเพียง 2 ศพและยังเหลือผู้สูญหายอีกถึง 113 คน
ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากหนึ่งในโศกนาฏกรรมทางทะเลครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศ จนถึงวันจันทร์(28) ยืนยันอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 189 คน ขณะที่ด้วยความกังวลว่าภาวะคลื่นลมแรงอาจซัดศพลอยกระจัดกระจายออกไปไกล ทางเจ้าหน้าที่จึงขึงตาข่ายรอบๆเรือเฟอร์รี อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานพบศพใหม่ๆเพิ่มเติม
ปาร์ค เซือง-กี โฆษกกองกำลังเฉพาะกิจร่วมของรัฐบาล ในวันจันทร์(28) ประกาศเพิ่มความพยายามเป็น 2 เท่าในการป้องกันไม่ให้ศพสุญหายในทะเล โดยมีการจัดตั้งทีมพิเศษเพื่อค้นหาใต้น้ำรอบๆเรือที่อัปปทาง เช่นเดียวกับผิวทะเล เกาะและชายหาดต่างๆที่อยู่ใกล้เคียง ขณะเดียวกันก็ได้ร้องขอไปยังจีนและญีปุ่น ให้ติดต่อมาทันที หากว่าพบศพใดๆที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้บนชายฝั่งของพวกเขา
เวลานี้เกาหลีใต้ยังคงอยู่ในการไว้ทุกข์ทั่วประเทศ ขณะที่ญาติๆเหยื่อและสาธารณะชนซึ่งอยู่ในภาวะเดือดดาล กำลังมองหาใครสักคนที่ต้องรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุทางทะเลครั้งเลวร้ายที่สุด
ในวิดีโอที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์(28) เผยให้เห็นว่าบริเวณดาดฟ้าของเรือเกือบจะว่างเปล่า เนื่องจากลูกเรือย้ำคำสั่งหลายรอบว่าให้ผู้โดยสารอยู่แต่ในภายใน ซึ่งสุดท้ายแล้วมันก็กลายเป็นเรื่องยากที่จะอพยพผู้โดยสารเหล่านั้น เนื่องจากเอียงมากเกินไป และปัญหาความล่าช้าในชั่วโมงวิกฤต ที่ตอนนั้นลูกเรือเกือบทั้งหมดหลบหนีออกจากเฟอร์รีแล้ว ได้กระพือความขุ่นแค้นแก่ญาติๆและคนทั่วไป ด้วยเชื่อว่าชีวิตผู้โดยสารจำนวนมากจะได้รับการปกป้องหากว่าได้รับคำสั่งอย่างทันกาล
นายกรัฐมนตรี ชุง ฮอง-วอน แห่งเกาหลีใต้ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเมื่อวานนี้ (27) โดยยอมรับว่า ตนไม่ได้เข้าไปกำกับดูแลการตอบสนองเหตุเรืออับปางเท่าที่ควร แต่ประธานาธิบดี พัค กึค-ฮเย ได้ขอร้องให้ ชุง อยู่ในตำแหน่งต่อไป จนกว่าปฏิบัติการกู้ภัยจะเรียบร้อย
เสียงประณามที่รุนแรงจากสังคมส่งผลให้กระบวนการสอบสวนถูกขยายผลไปถึงบริษัท ชองแฮจิน มารีน ซึ่งเป็นเจ้าของเรือ รวมถึงหุ้นส่วนของบริษัทอีกราวๆ 10 แห่ง ไม่เว้นกระทั่งผู้ตรวจสอบความปลอดภัยเรือ และเจ้าหน้าที่ควบคุมการสัญจรทางทะเล ซึ่งล้วนอยู่ในข่ายต้องสงสัยว่าปฏิบัติหน้าที่หละหลวมจนเป็นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมนี้ขึ้นหรือไม่
ในวันนี้ (28) อัยการเกาหลีใต้ได้เข้าตรวจค้นสำนักงานยามฝั่งบริเวณท่าเรือม็อกโป หลังมีข้อครหาหาว่ายามฝั่งตอบสนองการแจ้งเหตุจากผู้โดยสารคนหนึ่งล่าช้าเกินไป
รายงานระบุว่า หน่วยยามฝั่งได้รับแจ้งเหตุครั้งแรกจากเด็กนักเรียนชายนามสกุล “ชอย” ซึ่งเป็นผู้โดยสารบนเรือเฟอร์รีเซวอล ก่อนที่ลูกเรือจะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมการสัญจรทางทะเลในอีกไม่กี่นาทีต่อมา
ระหว่างที่ ชอยโทร.แจ้งเหตุผ่านสายด่วน 119 เขาถูกยิงคำถามมากมายเกี่ยวกับเรือเฟอร์รีและจำนวนผู้โดยสารบนเรือ ต่อมายามฝั่งเกาหลีใต้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า พวกเขาเข้าใจผิดคิดว่า ชอย เป็นลูกเรือคนหนึ่ง
ประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย ซึ่งคะแนนนิยมตกต่ำลงอย่างมากจากผลกระทบของเหตุเรืออับปาง ให้คำมั่นต่อสังคมว่าทุกคนที่มีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้จะถูกนำตัวมา “ดำเนินคดีอาญา” อย่างแน่นอน