xs
xsm
sm
md
lg

มะนิลาโอเครับทหารมะกันเพิ่มขึ้น - “โอบามา-นาจิบ” ก็ยกระดับพันธมิตร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2012 แสดงให้เห็นทหารนาวิกโยธินอเมริกันซ่อมเต็นท์ของพวกเขา ขณะเดินทางถึง โครว์ แวลลีย์ จังหวัดตาร์ลัค ทางภาคเหนือของฟิลิปปินส์ เพื่อเข้าร่วมการซ้อมรบยกพลขึ้นบกร่วมกับกองทหารฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ประเทศทั้งสองมีกำหนดลงนามในข้อตกลงฉบับใหม่วันจันทร์ (28) นี้ ซึ่งจะเปิดทางให้สหรัฐฯเข้ามาใช้ฐานทางทหารต่างๆในแดนตากาล็อกเพิ่มมากขึ้น
เอพี/เอเจนซีส์ – สหรัฐฯ กับฟิลิปปินส์ บรรลุกรอบข้อตกลงเพื่อเปิดทางให้กองทหารอเมริกันประจำการอยู่ในแดนตากาล็อกได้มากขึ้น ในช่วงเวลาที่มะนิลากำลังเผชิญหน้าอย่างตึงเครียดกับปักกิ่ง ขณะเดียวกัน โอบามาแถลงข่าวร่วมกับนายกฯนาจิบ ของมาเลเซีย ยืนยันวอชิงตันจะยังคงให้การสนับสนุนการค้นหาเครื่องบินโดยสารเที่ยวบิน MH370 ต่อไป พร้อมกันนี้ทั้งสองประเทศยังตกลงยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็น “หุ้นส่วนที่ครอบคลุมรอบด้าน”

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ 2 คนเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (27 เม.ย.) ว่า ข้อตกลงเพิ่มพูนความร่วมมือด้านกลาโหมฉบับนี้ซึ่งจะอนุญาตให้กองทหารอเมริกันเข้าใช้ฐานทัพและสิ่งปลูกสร้างทางทหารบางแห่ง รวมถึงส่งเครื่องบินขับไล่และเรือเข้าประจำการแบบผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนในแดนตากาล็อกได้เพิ่มมากขึ้น ภายในกรอบระยะเวลา 10 ปี จะได้รับการลงนามที่กระทรวงกลาโหมของฟิลิปปินส์ในวันจันทร์ (28) ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะเดินทางถึงมะนิลาเพื่อเริ่มต้นการเยือนเป็นเวลา 2 วัน

ในเวลาต่อมา สำนักข่าวเอเอฟพีก็รายงานข่าวโดยอ้าง อีแวน เมเดอิรอส ผู้อำนวยการอาวุโสด้านกิจการเอเชียของสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่าข้อตกลงนี้เป็น กรอบโครง “ที่เป็นทั้งโครงกระดูกและกล้ามเนื้อ” ซึ่งจะเปิดทางให้ทั้งสองประเทศปรึกษาหารือกันในเรื่องการปรากฏตัวทางทหารของสหรัฐฯในฟิลิปปินส์เพิ่มมากขึ้น ทั้งในด้านกำลังทหารที่จะหมุนเวียนเข้ามา, การเยือนของเรือรบ, และการฝึกซ้อมต่างๆ

เขาระบุว่า ข้อตกลงนี้เป็น “ข้อตกลงสำคัญที่สุดที่เราสามารถทำกับฟิลิปปินส์ได้ในระยะเวลาหลายสิบปีมานี้” รวมทั้งถือเป็นอีกส่วนหนึ่งใน แผนการยุทธศาสตร์ “ปักหมุดเอเชีย” ของโอบามา

เอพีบอกว่า จากเอกสารข้อมูลพื้นฐานของรัฐบาลฟิลิปปินส์ ระบุว่า จำนวนทหารที่อเมริกาจะส่งไปหมุนเวียนเพิ่มขึ้นนั้น จะขึ้นอยู่กับขนาดกิจกรรมร่วมทางทหารที่จัดขึ้นในฐานทางทหารของฟิลิปปินส์

สหรัฐฯ นั้นมีทหารหมุนเวียนประจำการอยู่ทางใต้ของฟิลิปปินส์หลายร้อยคนนับตั้งแต่ปี 2002 เพื่อฝึกอบรมการต่อต้านการก่อการร้ายและให้คำปรึกษาแก่กองทัพตากาล็อกที่ต่อสู้กับนักรบมุสลิมมานานหลายสิบปี

ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญฟิลิปปินส์ปัจจุบันนั้นห้ามต่างชาติเข้าไปตั้งฐานทัพเป็นการถาวร หลังจากที่ในปี 1991 วุฒิสภาแดนตากาล็อกได้ลงมติปิดฐานทัพอเมริกันในอ่าวซูบิกและคลาร์ก อย่างไรก็ดี 8 ปีต่อมา มะนิลาให้สัตยาบันรับรองข้อตกลงอนุญาตให้กองกำลังอเมริกันหมุนเวียนเข้ามาประจำการเป็นการชั่วคราว
กลุ่มผู้ประท้วงเผาแผ่นป้ายเลียนแบบธงชาติอเมริกัน ที่เมืองเกซอนซิตี้ ชานกรุงมะนิลาในวันอาทิตย์ (27) เพื่อแสดงการประท้วงการเยือนฟิลิปปินส์ของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งมีกำหนดเดินทางถึงมะนิลาในวันจันทร์ (28) ทั้งนี้รัฐบาลฟิลิปปินส์และสหรัฐฯกำลังจะลงนามในข้อตกลงฉบับใหม่ ซึ่งจะทำให้อเมริกาสามารถปรากฏตัวทางทหารในฟิลิปปินส์เพิ่มมากขึ้น
สำหรับข้อตกลงเพิ่มพูนความร่วมมือด้านกลาโหมฉบับนี้ ได้มีความพยายามที่ตกลงกันให้สำเร็จในปีที่แล้ว ทว่าเผชิญอุปสรรคสำคัญเมื่อทั้งสองฝ่ายมีความเห็นไม่ลงรอยกัน เรื่องที่ฟิลิปปินส์เรียกร้องต้องการเข้าถึงพื้นที่ทั้งหลายภายในฐานทางทหารของตนซึ่งยกให้กองทหารอเมริกันใช้สอย

ในที่สุดเพื่อแก้ไขประเด็นนี้ ข้อตกลงฉบับนี้จึงกำหนดให้ผู้บัญชาการฐานทัพฟิลิปปินส์สามารถเข้าถึงพื้นที่ทั้งหมดที่ใช้ร่วมกับกองทหารอเมริกัน

ข้อตกลงนี้มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือที่ดียิ่งขึ้นระหว่างกองทัพของสองประเทศ เพิ่มความเข้มแข็งของฟิลิปปินส์ที่มีกำลังพล 120,000 คนในการตรวจสอบและปกป้องดินแดนของประเทศ รวมทั้งรับมือภัยพิบัติธรรมชาติและกรณีฉุกเฉินอื่นๆ

ปัจจุบัน รัฐบาลและกองทัพฟิลิปปินส์ที่มีปัญหาด้านงบประมาณ ให้ความสำคัญมากขึ้นกับภัยคุกคามจากภายนอก เช่น กรณีพิพาทเรื่องดินแดนในทะเลจีนใต้กับจีนที่คุกรุ่นขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ซึ่งฟิลิปปินส์ตัดสินใจพึ่งพิงวอชิงตันในการปรับปรุงกองทัพเรือและกองทัพอากาศที่ได้ชื่อว่า อ่อนแอที่สุดในเอเชีย

เป้าหมายดังกล่าวสอดประสานกับยุทธศาสตร์ “ปักหมุด” ในเอเชียของโอบามา ซึ่งส่วนหนึ่งนั้นต้องการคานอิทธิพลที่กำลังเพิ่มขึ้นของจีนด้วย

เพื่อส่งเสริมยุทธศาสตร์นี้ ผู้นำสหรัฐฯ ได้เปิดฉากทัวร์เอเชียตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเริ่มต้นจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย และจุดหมายปลายทางสุดท้ายคือฟิลิปปินส์
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา (ด้านหลังตรงกลางคนซ้าย) และนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ของมาเลเซีย (ด้านหลังตรงกลางคนขวา) ถ่ายภาพพร้อมกับนักศึกษาหนุ่มสาว ขณะพวกเขาเดินทางไปเยี่ยมศูนย์นวัตกรรมและการสร้างสรรค์ระดับโลกของมาเลเซีย ที่เขตไซเบอร์จายา ของมาเลเซีย เมื่อวันอาทิตย์ (27) โอบามากำลังอยู่ระหว่างตระเวนเยือน 4 ชาติในเอเชีย เพื่อตอกย้ำยุทธศาสตร์ “ปักหมุด” ในภูมิภาคนี้ของเขา
ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ โอบามาได้ร่วมแถลงข่าวกับนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ของมาเลเซีย โดยกล่าวว่า ตนและนาจิบได้ร่วมหารือถึงบทเรียนที่ได้รับเพื่อปรับปรุงความร่วมมือของนานาชาติในการค้นหาเครื่องบินของมาเลเซีย แอร์ไลนส์ เที่ยวบิน MH370 ที่เชื่อว่า สูญหายในบริเวณตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดียตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคมพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน

โอบามาสำทับว่า อเมริกาจะสนับสนุนทรัพยากรและทรัพย์สินเพื่อค้นหาเครื่องบินนี้ต่อไป

ทางด้านนาจิบแถลงว่า มาเลเซียและสหรัฐฯ เห็นพ้องในการยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็น “หุ้นส่วนที่ครอบคลุมรอบด้าน” ซึ่งหมายถึงการร่วมมือกันมากขึ้นทั้งด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง การศึกษา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

ผู้นำมาเลเซียและอเมริกายังหารือเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านดินแดนในทะเลจีนใต้ และยอมรับความสำคัญในการยึดมั่นปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น